7 สิ่งมหัศจรรย์ มรดกโลก เป็นโบราณสถานที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของความงดงามและความอลังการทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทั้ง 7 แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าทึ่ง แต่ยังเป็นมรดกโลกที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ มาร่วมสำรวจสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้ และค้นพบเหตุผลที่ทำให้พวกเขาควรค่าแก่การเดินทางไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต
1. กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)
กำแพงเมืองจีนถือเป็นสิ่งก่อสร้างทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นระหว่างราชวงศ์ต่างๆ ของจีนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ เช่น ชาวมองโกล กำแพงนี้ทอดยาวเป็นระยะทางกว่า 21,000 กิโลเมตร ผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ป่า ทะเลทราย และที่ราบ ทำให้กำแพงนี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งและความมั่นคงของอาณาจักรจีน
กำแพงเมืองจีนไม่ได้มีเพียงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผู้ที่มาเยือนกำแพงเมืองจีนจะได้สัมผัสกับความอลังการของโครงสร้างขนาดใหญ่ และสามารถเดินชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากยอดกำแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ที่ทิวทัศน์ของภูเขาจะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ การเดินทางมาที่กำแพงเมืองจีนยังสามารถทำได้ทั้งในบริเวณ Badaling ที่เป็นจุดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว หรือบริเวณอื่นๆ ที่มีความสงบเงียบและคงสภาพเดิมมากกว่า
2. เมืองเปตรา (Petra) จอร์แดน
เปตราเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจอร์แดน เมืองนี้มีความโดดเด่นจากสถาปัตยกรรมที่ถูกแกะสลักจากหินทรายสีชมพูที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ เปตราเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของจักรวรรดิ Nabataean ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เนื่องจากตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและเอเชีย
เปตรามีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย เช่น Treasury (Al-Khazneh) ที่เป็นสุสานที่มีความงดงามเป็นพิเศษ นอกจากนั้น ยังมีโรงละครโบราณ และวัดต่างๆ ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักร Nabataean นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่สามารถเดินผ่านเส้นทางแคบๆ ที่ชื่อว่า “Siq” ที่มีความยาวถึง 1.2 กิโลเมตร และนำพาไปสู่ใจกลางเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ซึ่งสร้างความประทับใจและความลึกลับให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม
นอกจากนี้ เปตรายังถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยใหม่ด้วยสถาปัตยกรรมและภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เปตราเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโลกตะวันออกกลาง
3. คริสตัส เรเดมเมอร์ (Christ the Redeemer) บราซิล
รูปปั้นคริสตัส เรเดมเมอร์เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของประเทศบราซิล ตั้งอยู่บนยอดเขา Corcovado ในเมืองรีโอเดจาเนโร รูปปั้นนี้มีความสูงถึง 30 เมตร และฐานสูงอีก 8 เมตร รวมทั้งหมดเป็น 38 เมตร รูปปั้นนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักและเมตตาของพระเยซูที่มอบให้แก่ชาวบราซิลและชาวโลก
คริสตัส เรเดมเมอร์ถูกออกแบบโดยนักประติมากรรมชาวฝรั่งเศส Paul Landowski และก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1931 รูปปั้นนี้ถูกสร้างขึ้นจากหินสบู่สีขาว (Soapstone) ซึ่งมีความทนทานต่อสภาพอากาศและการกัดกร่อน ทำให้รูปปั้นยังคงความงดงามจนถึงปัจจุบัน นอกจากความสวยงามของรูปปั้นเองแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถชมวิวที่สวยงามของเมืองรีโอเดจาเนโรจากจุดชมวิวบนยอดเขา ซึ่งมีทั้งชายหาด Copacabana, อ่าว Guanabara และภูเขา Sugarloaf Mountain ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้
คริสตัส เรเดมเมอร์ไม่เพียงเป็นแค่จุดท่องเที่ยวที่น่าทึ่ง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาของชาวคริสต์ทั่วโลก และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรเยี่ยมชมอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต
4. มาชูปิกชู (Machu Picchu) เปรู
มาชูปิกชูเป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงของเทือกเขาแอนดีสในเปรู สร้างขึ้นในสมัยจักรวรรดิอินคาในศตวรรษที่ 15 มาชูปิกชูเคยเป็นเมืองที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ทั้งวัด วิหาร และบ้านเรือนที่สร้างขึ้นจากหินโดยไม่มีการใช้ปูนเชื่อม แม้เมืองจะถูกทอดทิ้งหลังจากจักรวรรดิอินคาล่มสลาย แต่ก็ยังคงมีสภาพที่ดีมาก จนได้รับการค้นพบใหม่ในปี ค.ศ. 1911 โดยนักสำรวจชาวอเมริกัน Hiram Bingham
มาชูปิกชูเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลก ด้วยวิวที่งดงามของเทือกเขาและสถาปัตยกรรมโบราณ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางผ่านเส้นทาง Inca Trail ซึ่งเป็นเส้นทางที่ท้าทายแต่น่าประทับใจ เพื่อสำรวจมาชูปิกชู นอกจากนี้ การเที่ยวชมเมืองโบราณนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอินคาและการดำรงชีวิตในยุคโบราณ นักท่องเที่ยวควรเยี่ยมชม Machu Picchu ในช่วงเช้าตรู่ เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือยอดเขาที่งดงามและสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของมรดกโลกแห่งนี้
5. พีระมิดคูฟู (The Great Pyramid of Giza) อียิปต์
พีระมิดคูฟู หรือพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza) เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ยังคงยืนหยัดมาตั้งแต่ยุคโบราณ ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ พีระมิดแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคฟาโรห์คูฟูในช่วงประมาณ 2,560 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นหนึ่งในสามพีระมิดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งรวมถึงพีระมิดคาเฟร (Khafre) และพีระมิดเมนคูเร (Menkaure)
พีระมิดคูฟูเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่งด้วยขนาดที่ใหญ่โตและโครงสร้างที่ซับซ้อน ประมาณการว่าพีระมิดนี้ใช้หินน้ำหนักกว่า 2 ล้านก้อนในการก่อสร้าง แต่ละก้อนมีน้ำหนักเฉลี่ย 2.5 ตัน นอกจากนี้ พีระมิดคูฟูยังเป็นสุสานสำหรับฟาโรห์คูฟูและเป็นเครื่องหมายของความเชื่อในชีวิตหลังความตายของชาวอียิปต์โบราณ การเดินทางไปเยี่ยมชมพีระมิดแห่งกีซาไม่เพียงแต่เป็นการชมสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นโอกาสในการสัมผัสกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของอียิปต์โบราณ
6. ทัชมาฮาล (Taj Mahal) อินเดีย
ทัชมาฮาลเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิชาห์ จาฮาน (Shah Jahan) เพื่อเป็นที่ระลึกถึงภรรยาของเขา มุมตัซ มาฮาล (Mumtaz Mahal) ซึ่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1631 สร้างขึ้นจากหินอ่อนขาวที่ประดับด้วยอัญมณีและลวดลายอิสลาม ทัชมาฮาลถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วยความงดงามและสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร
ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในเมืองอัครา ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา (Yamuna River) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โครงสร้างของทัชมาฮาลประกอบด้วยโดมสูงที่มีความสูงกว่า 73 เมตรและล้อมรอบด้วยสวนสวยงาม นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมทัชมาฮาลสามารถชมความงดงามของโดมและภาพสะท้อนในสระน้ำที่ตั้งอยู่ตรงกลางของสวน นอกจากนี้ ทัชมาฮาลยังสะท้อนถึงความรักและความเสน่หาที่จักรพรรดิชาห์ จาฮาน มีต่อภรรยาของเขา จึงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความหมายและความสำคัญทางอารมณ์
7. โคลอสเซียม (Colosseum) อิตาลี
โคลอสเซียมเป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสปาเซียน (Vespasian) ในช่วงประมาณปี ค.ศ. 70-80 สนามกีฬานี้เคยใช้จัดการต่อสู้ของนักรบกลาดิเอเตอร์และสัตว์ป่า สนามกีฬานี้มีขนาดใหญ่และจุคนได้ถึง 50,000 คน โครงสร้างของโคลอสเซียมสร้างขึ้นจากหินทรายและหินอ่อน โดยมีช่องว่างมากมายเพื่อให้แสงสว่างและลมพัดผ่านได้ดี ทำให้สนามกีฬาแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่จัดการแสดงที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นตัวอย่างของความสามารถในการออกแบบสถาปัตยกรรมของชาวโรมัน
ปัจจุบัน โคลอสเซียมเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผู้ที่มาเยี่ยมชมสามารถเดินทางเข้าสู่สนามกีฬาและสำรวจประวัติศาสตร์ของการต่อสู้และความบันเทิงในยุคโรมัน การเดินทางมาที่โคลอสเซียมยังเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตของชาวโรมันโบราณ
บทสรุปสิ่งมหัศจรรย์ มรดกโลก
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเป็นสถานที่ที่ทุกคนควรเดินทางไปสัมผัสด้วยตนเอง เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความสำคัญของสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ สิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แต่ยังเป็นมรดกโลกที่สะท้อนถึงความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และความพยายามของบรรพบุรุษที่สร้างไว้ให้เราได้ชื่นชมและศึกษา ทุกๆ แห่งในรายชื่อนี้มีความสำคัญและมีเสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนที่ไปเยือนต้องประทับใจ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางที่ชื่นชอบการสำรวจวัฒนธรรม การชมสถาปัตยกรรม หรือการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกถือเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณควรเก็บไว้ในรายการสิ่งที่ต้องทำก่อนตาย
ชมบทความท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี้