เวียดนามเหนือ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหารที่มีเอกลักษณ์ หากคุณกำลังวางแผนเดินทางแบบอิสระโดยไม่ต้องจ้างไกด์ บทความนี้จะช่วยคุณจัดแผน เที่ยวเวียดนามเหนือ 7 วัน ให้ครบทุกไฮไลต์ พร้อมคำแนะนำการเดินทางที่จะทำให้ทริปของคุณสะดวกและน่าประทับใจที่สุด
วันที่ 1: เดินเล่นสำรวจฮานอย เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรม
เริ่มต้นทริปที่ ฮานอย เมืองหลวงที่เป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์ เริ่มต้นวันด้วยการเดินเล่นใน ย่านโอลด์ควอเตอร์ (Old Quarter) ซึ่งเป็นเขตเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยถนนสายเล็ก ๆ ร้านค้า และ ร้านอาหารพื้นเมืองที่มีเสน่ห์ สถานที่แห่งนี้ เหมาะสำหรับการเดินชมชีวิตประจำวันของคนท้องถิ่น รวมถึงการเลือกซื้อของฝาก เช่น ผ้าทอมือ เซรามิก และกาแฟเวียดนาม
ช่วงบ่าย เดินทางไปยัง ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ถ่ายภาพที่ สะพานเทฮุก (The Huc Bridge) สีแดงสดที่นำไปสู่วัด หง็อกเซิน (Ngoc Son Temple) ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ แนะนำให้เยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ และ สุสานโฮจิมินห์ ที่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำ และ ความสำคัญของบุคคลผู้นี้ต่อชาวเวียดนาม ปิดท้ายวันด้วยการชมการแสดง หุ่นกระบอกน้ำ (Water Puppet Show) ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของเวียดนาม
วันที่ 2: เดินทางสู่ซาปา เมืองแห่งขุนเขา
วันที่สองเริ่มต้นด้วยการเดินทางจากฮานอยไปยัง ซาปา โดยรถไฟกลางคืนหรือรถบัสที่ให้บริการหลากหลายช่วงเวลา ซาปาเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขาทางตอนเหนือของเวียดนาม เมื่อเดินทางมาถึง คุณจะสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นสบายและวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอก
เริ่มสำรวจซาปาด้วยการเยี่ยมชม ตลาดซาปา (Sapa Market) ที่เต็มไปด้วยสินค้าพื้นเมือง เช่น เสื้อผ้าปักลวดลายสวยงาม และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ช่วงบ่าย สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์หรือรถรับจ้างเพื่อเดินทางไปยัง หมู่บ้าน Cat Cat ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่า H’Mong ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตและชมวิวของนาขั้นบันไดที่งดงาม
ช่วงเย็นกลับมายังตัวเมืองซาปาเพื่อพักผ่อน หรือเดินเล่นใน Quang Truong Square ที่มีร้านอาหาร และ คาเฟ่หลากหลายให้เลือก แนะนำให้ลองอาหารพื้นเมือง เช่น หม้อไฟปลาแซลมอน (Salmon Hotpot) ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในซาปา
วันที่ 3: เทรคกิ้งในซาปา
วันที่สามเหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด การ เทรคกิ้ง (Trekking) เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในซาปา โดยคุณสามารถเลือกเส้นทางที่เหมาะกับความสามารถและระยะเวลาที่มี เส้นทางยอดนิยมได้แก่:
- เส้นทางหมู่บ้านลาวไฉ (Lao Chai) และตาแวน (Ta Van): เส้นทางนี้จะพาคุณผ่านนาขั้นบันไดสีเขียวสดใสและหมู่บ้านชนเผ่าท้องถิ่น คุณสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมของชนเผ่า Giay และ H’Mong ได้ตลอดการเดินทาง
- เส้นทาง Ham Rong Mountain: เส้นทางนี้อยู่ใกล้ตัวเมืองซาปาและมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาฟานซีปันได้ชัดเจน
สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง คุณสามารถเลือกพักโฮมสเตย์ในหมู่บ้านชนเผ่า ซึ่งจะให้โอกาสสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างแท้จริง พร้อมกับรับประทานอาหารพื้นเมืองที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติ
ช่วงเย็นกลับมายังที่พักในซาปาเพื่อพักผ่อน และเตรียมตัวสำหรับการเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไปในวันรุ่งขึ้น
วันที่ 4: ล่องเรือสำรวจอ่าวฮาลองเบย์
เริ่มต้นวันที่สี่ด้วยการเดินทางจากฮานอยสู่ ฮาลองเบย์ (Halong Bay) หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ฮาลองเบย์ขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพของเกาะหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่ในทะเลสีเขียวใส การเดินทางสามารถทำได้ทั้งโดยรถบัสหรือรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
เมื่อถึงฮาลองเบย์ คุณสามารถขึ้นเรือสำราญที่ให้บริการล่องเรือทั้งแบบครึ่งวันและค้างคืนบนเรือ สำหรับวันที่สี่นี้ แนะนำให้เลือกทัวร์เรือสำราญแบบค้างคืนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ กิจกรรมระหว่างล่องเรือรวมถึง:
- พายเรือคายัค: ลัดเลาะผ่านถ้ำและเกาะแก่งต่าง ๆ เช่น ถ้ำลู่ออน (Luon Cave)
- เยี่ยมชมถ้ำหินงอกหินย้อย: เช่น ถ้ำสวรรค์ (Thien Cung Cave) ที่งดงามด้วยธรรมชาติใต้ดิน
- ว่ายน้ำ: ที่ชายหาดเล็ก ๆ บนเกาะที่เรือแวะจอด
ช่วงเย็น คุณสามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินบนดาดฟ้าเรือ และ เพลิดเพลินกับอาหารทะเลสด ๆ ที่ปรุงบนเรือ ก่อนพักผ่อนในห้องพักที่มีวิวทะเลสวยงาม
วันที่ 5: ล่องเรือต่อในอ่าวฮาลอง
วันที่ห้าในฮาลองเบย์เหมาะสำหรับการล่องเรือต่อในส่วนที่ลึกกว่าและเงียบสงบกว่า เช่น อ่าวบ่ายตูลอง (Bai Tu Long Bay) ซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติและมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าฮาลองเบย์ คุณสามารถสนุกกับกิจกรรมเพิ่มเติม เช่น
- การเรียนทำอาหารเวียดนามบนเรือ
- ชมหมู่บ้านชาวประมงลอยน้ำ
- พายเรือผ่านจุดชมวิวที่น้อยคนจะได้สัมผัส
หลังจบกิจกรรมในช่วงบ่าย เรือจะพาคุณกลับสู่ท่าเรือหลักเพื่อเดินทางกลับ ฮานอย โดยรถบัสหรือรถยนต์ส่วนตัว ในช่วงเย็น คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือเดินเล่นใน ถนนคนเดินรอบทะเลสาบคืนดาบ (Weekend Night Market) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมชิมอาหารท้องถิ่นเพิ่มเติม
วันที่ 6: สำรวจนิงห์บิ่งห์ (Ninh Binh) – ฮาลองเบย์บนบก
ออกเดินทางแต่เช้าจากฮานอยไปยัง นิงห์บิ่งห์ (Ninh Binh) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์หรือรถบัส นิงห์บิ่งห์เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่า “ฮาลองเบย์บนบก” เนื่องจากมีภูมิทัศน์คล้ายคลึงกับฮาลองเบย์ แต่ตั้งอยู่ท่ามกลางที่ราบลุ่ม
กิจกรรมที่ควรทำในนิงห์บิ่งห์:
- พายเรือในถ้ำตามก๊ก (Tam Coc): ล่องเรือผ่านแม่น้ำที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนและทุ่งนา
- เยี่ยมชมเจดีย์ไบ่ดิงห์ (Bai Dinh Pagoda): เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม
- ปีนเขาเมาเก๋ (Mua Cave): เส้นทางปีนเขาที่นำไปสู่จุดชมวิวพาโนรามาของพื้นที่โดยรอบ
ช่วงเย็นเดินทางกลับ ฮานอย เพื่อพักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับวันสุดท้ายของทริป
วันที่ 7: ช้อปปิ้งส่งท้ายในฮานอย
วันสุดท้ายของการเดินทางเหมาะสำหรับการช้อปปิ้งและเลือกซื้อของฝากกลับบ้าน ใช้เวลาช่วงเช้าเดินเล่นที่ ตลาดดงซวน (Dong Xuan Market) ตลาดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน และของที่ระลึก เช่น กาแฟเวียดนาม ผ้าทอมือ และหมวกงอบเวียดนาม
จากนั้น เดินเล่นใน ย่านโอลด์ควอเตอร์ (Old Quarter) เพื่อชิมอาหารท้องถิ่นเพิ่มเติม เช่น ไข่กาแฟ (Egg Coffee) หรือ บั๋นแจ๊ก (Banh Xeo) ปิดท้ายวันด้วยการเดินเล่นรอบ ทะเลสาบคืนดาบ เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศของฮานอยก่อนเดินทางกลับไทยในช่วงเย็น
สรุป
เวียดนามเหนือ เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการประสบการณ์การเที่ยวแบบครบครัน ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหารในงบประมาณที่ประหยัด การจัดทริป เที่ยวเวียดนามเหนือ 7 วันโดยไม่ต้องจ้างไกด์เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย เพียงแค่คุณวางแผนล่วงหน้า และ เตรียมตัวให้พร้อม การเดินทางครั้งนี้จะเต็มไปด้วยความประทับใจและเรื่องราวดี ๆ ที่คุณจะจดจำไปอีกนาน
ชมบทความท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี้