• 22.00 น.
• นัดหมายพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว T เคานเ์ตอร์ สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้บริการ และอำนวยความสะดวกก่อนขึ้นเครื่อง

วันที่ 2 : กรุงเทพ ฯ – เอดินบะระ (Edinburgh) – สเตอร์ลิง (Stirling) 

• 01.15 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเอเธนส์ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 385/023 เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่านอากาศยานดูไบ 04.45 – 07.55 น.
• 13.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานเอดินบะระ (Edinburgh Airport) หรือเรียกโดยทั่วไปว่า เทิร์นเฮาส์ (Turnhouse) ประเทศสก๊อตแลนด์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แล้วนำทานเดินทางสู่ เมืองสเตอร์ลิง (Stirling) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร)  จุดเชื่อมระหว่าง Highland และ Lowland ของสกอตแลนด์ อดีตเมืองหลวงเก่าของสกอตแลนด์ ปัจจุบันเมืองสเตอร์ลิงถือเป็นศูนย์กลางของบริษัท รัฐบาล การค้าอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้าและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงด้านการผลิตเงินอีกด้วย เข้าชมปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินคาลเซิลฮิลล์ (Castle Hill) ปราสาทแห่งนี้มีลักษณะอันดดดเด่นนอกจากการตั้งอยู่บนเนินเขาแล้ว ยังมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ใช้เป็นสถานที่ที่กษัตริย์และราชินีแห่งสกอตแลนด์ได้รับการแต่งตั้งสมมงกุฎ
• แวะถ่ายภาพกับ อนุเสาวรีย์วอลเลซ (Wallace Monument)  อนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่บนเขาแอบบีเครก(Abbey Craig)ที่มีความสูงประมาณ 111 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่  วิลเลียม วอลเลซ(William Wallace)  วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของสกอตแลนด์ ผู้นำการต่อต้านการล่าอาณานิคมอังกฤษ จนมีการนำเอาเรื่องราวของวีรบุรุษผู้นี้ไปเป็นแรงบรรดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “Brave Heart”
• ที่พัก Stirling Highland Hotel หรือเทียบเท่า*

• ออกเดินทางสู่ เมืองเซนต์ แอนดูรว์ (St.Aadrews) (ระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร) เมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกของสกอตแลนด์ เมืองเก่าแก่อันดับ 3 ของโลก อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดกีฬากอล์ฟ ที่ตั้งของสนามกอล์ฟเซนต์ แอนดรูว์ ที่มี่ชื่อเสียงระดับโลก
• เข้าชม วิหารเซนต์ แอนดูรว์ (St.Andrews Cathedral) สัมผัสความเป็นมาของประวัติศาสตร์ผ่านร่องรอยของซากกำแพงหิน ให้ชวนจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต ต่อด้วยการชม ปราสาทเซนต์ แอนดรูว์ (St.Andrews Castle) ที่อดีตที่ประทับของบิช็อปที่ถูกทำลายจากการปฏิรูปศาสนา
• นำท่านเดินทางสู่ เมืองเพิร์ธ (Perth) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร) ตั้งอยู่ตอนกลางของสกอตแลนด์ ให้อิสระชมเมือง ช้อปปิ้งใจย่านใจกลางเมืองเพิร์ธ ก่อนเข้าชมพระราชวังสโคนน์ (Scone Palace) ให้อิสระในการถ่ายภาพพระราชวังหินทรายสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1808 จุดเด่นอยู่ตรงหลังคาปราสาทแบบกอธิคจอร์เจีย โดยคำว่า Scone นั้นมาจาก Scone Stone หมายความว่า หินศักดิ์สิทธิ์  เดินทางต่อสู่ เมืองพิทลอชรีย์ (Pitlochry) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร) เมืองเล็กๆในชนบทซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาริมแม่น้ำ Tummel ล้อมรอบไปด้วยขุนเขา โดยมีอาคารบ้านเรือนที่สร้างจากหินสไตล์วิคตอเรียน
• ที่พัก Atholl Hotel หรือเทียบเท่า*

• เดินทางสู่ ทะเลสาบเนสส์ (Loch Ness) (ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร) กิจกรรมล่องเรือชมทะเลสาบเนสส์ ทะเลสาบขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงจากตำนานของ เนสซี่ (Nessie) สัตว์ประหลาด ที่รูปร่างคล้ายไดโนเสาร์มีคอยาว ลำตัวใหญ่อาศัยอยู่ในทะเลสาบ บริเวณริมทะเลสาบมีซากปราสาทเก่าแก่ชื่อว่าปราสาท Urquhart ที่อดีตเคยหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์
• ออกเดินทางต่อไปยัง ไคล์ ออฟ ลอชลาช (Kyle of Lochlash) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร) แวะถ่ายภาพกับ ปราสาท Eilean Donan Castle หนึ่งในปราสาทที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นปราสาทสวยงามมากแห่งหนึ่งของโลก จนถูกนำไปใช้เป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง “Highlander” และ เจมส์บอนด์ 007 ตอน “The world is not enough” ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของทะเลสาบสามสายได้แก่ Loch Duich, Loch Long และ Loch Aish อดีตเคยใช้เป็นป้อมปราการเพื่อป้องกันการรุกรานของพวกไวกิ้ง สำหรับสิ่งที่แตกต่างจากปราสาทอื่นๆคือ ปราสาทให้บรรยากาศหรือการตกแต่งที่ให้ความน่าเกรงขาม ยิ่งใหญ่ไม่ได้หรูหราเหมือนปราสาทอื่นๆ ภายนอกเงียบสงบและมีความสวยงาม
• ที่พัก Kyle Bespoke Hotel หรือเทียบเท่า*

• เดินทางไปยัง เกาะสกาย (Isle of Skye) (ระยะทาง 80 กิโลเมตร)เกาะใหญ่เป็นอันดับสองของสกอตแลนด์ แลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน เนื่องจากเป็นเกาะที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเสมือนดินแดนในเทพนิยาย รายล้อมด้วยเนินเขาและทะเล มีเมืองท่าที่สวยงามอย่างเมืองพอร์ทรี แวะถ่ายภาพกับ Kilt  Rock and Mealt Falls น้ำตกริมหน้าผาไหลลงสู่ทะเลที่สวยงามก่อนเดินทางต่อไปยัง The old man of Storr หรือภาษาท้องถิ่น เรียกกัน An Stor แนวเสาหินเรียงตัวกันอยู่บนเขาลักษณะหินที่ดูรูปร่างหน้าตาเหมือนผู้ชายแก่ จุดนี้ต้องเดินเท้าขึ้นไประยะทางไปกลับประมาณ 7.5 กิโลเมตร**ด้านบนสามารถชมวิวทัศนียภาพได้โดยรอบจากมุมสูง
• เดินทางสู่ เมืองพอร์ทรี (Portree)(ระยะทาง 15 กิโลเมตร) เมืองท่าเล็กๆที่ใหญ่ที่สุดของเกาะสกาย บรรยากาศบ้านเรือนสีสันสดใสคล้ายลูกกวาด ศูนย์กลางนักท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ และโรงแรมให้อิสระในการเดินเล่นชมเมืองก่อนออกเดินทางต่อไปยัง เมืองฟอร์ด วิลเลี่ยม (Fort William) (ระยะทาง 175 กิโลเมตร)เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น Outdoor Capital of UK  สวรรค์ของนักท่องเที่ยวสายลุยเมืองนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นเดินป่า ปีนเขา ตกปลา พายเรือ ปั่นจักรยาน เล่นสกีและอื่นๆ
• ที่พัก  The Alexandra Hotel หรือเทียบเท่า*

•  เช้านี้ชมความสวยงามของ ยอดเขา Ben Nevis ภูเขาที่สูงที่สุดใน Britain (อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลล์ และ ไอร์แลนด์) โดยการขึ้นกระเช้า Nevis Range ขึ้นสู่ ยอดเขา Aonach Mor ที่ระดับความสูง 2,300 ฟุตเหนือน้ำทะเล ที่นี่ยังเป็นที่นิยมสำหรับสายปั่นจักรยานผาดโผน และยังเป็นลายสกีหลักๆของสกอตแลนด์อีกด้วย หลังจากถึงปลายทางของกระเช้าแล้วสามารถเดินต่อไปยังจุดชมวิวทะเลสาบบนยอดเขาที่ตั้งของทะเลสาบ Eil และ ทะเลสาบ Lenhhe ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ***กรณีสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ***
• ช่วงบ่ายหลังลงจากเขาเดินทางไปยังจุดชมวิวบริเวณสะพาน เกลนฟินแนน (Glenfinnan Viaduct) ที่เชื่อเหลือเกินว่าทุกท่านน่าจะเคยเห็นสะพานแห่งนี้มาก่อน เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟ หัวรถจักรไอน้ำจาโคไบต์ (Jacobite Stream Train) ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง Harry Potter เป็น Hogwarts Express ปัจจุบันรถไฟนี้ยังให้บริการระหว่างเมือง Fort William ไปยังเมือง Malliag เมืองทางตะวันตกของสกอตแลนด์ โดยสะพานนี้ทำจากคอนกรีตลักษณะเป็นเสาโค้ง 21  ต้น ความยาวประมาณ 416 หลา และสูง 100 ฟุต (ยาว 380 เมตร สูง 30 เมตร) ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานสามารถใช้งานได้มาจวบจนถึงปัจจุบัน ก่อนปิดท้ายวันด้วยการชมความงดงามของ Glenfinnen Monument ที่มีฉากหลังเป็นทะเลสาบและผาสูงเสียดเกินเป็นความสวยงามเกินบรรยาย จากนั้นเดินทางกลับสู่ เมือง ฟอร์ด วิลเลี่ยม
• ที่พัก  The Alexandra Hotel หรือเทียบเท่า*

• เช้านี้เราขับรถผ่านถนนเส้นที่สวยที่สุดในสกอตแลนด์ผ่านหุบเขา Glen Coe  สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟหลายร้อยล้านปีก่อนเวลาผ่านไปแนวหินนั้นถูกกัดเซาะโดยกระแสลมและน้ำเกิดเป็นหุบเขารูปตัว U เป็นภูมิประเทศที่สวยงามแปลกตา อีกทั้งยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์ดังเรื่อง เจมส์ บอนด์ ตอน Skyfall อีกด้วย  แวะจุดชมวิว The Three Sisters แนวสันเขาที่สวยงาม เขาสามสาวนี้ชื่อว่า Beinn Fhada, Gearr Aonach & Aonach Dubh บริเวณนี้มีเส้นทางเดินป่าที่มีชื่อเสียงเพื่อไปยังภูเขา Bidean nam Bian แวะหมู่บ้าน Glen Coe หมู่บ้านเล็กๆที่มีร้านอาหาร และที่พัก และไม่ควรพลาดที่จะชิม สโคน(scone)แบบคาวไส้ชีส
• กิจกรรมเดินtrekking สู่ The Lost Valley ที่มีวิวธรรมชาติสวยงามตลอดสองข้างทาง
• เดินทางต่อสู่ ลอช โลมอนด์ (Loch Lomond) ทะเลสาบน้ำจืดที่สวยที่สุดในสกอตแลนด์และใหญ่ที่สุดในบริเทน สัมผัสบรรยากาศริมทะเลสาบที่จุดชมวิว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ราชินีควีนอลิซา เบธ เคยทรงมาประภาสเมื่อปี ค.ศ.1879
• มุ่งหน้าสู่ กรุงเอดินบะระ (Edinburgh) (ระยะทางประมาณ130 กิโลเมตร) เมืองหลวงของสกอตแลนด์ หรือเรียกอีกนามหนึ่งว่า “กรุงเอเธนส์แห่งยุโรปเหนือ” เมืองหลวงแห่งแรกที่กษัตริย์ชาวสกอตสร้างขึ้น
• ที่พักโรงแรม Hilton Edinburgh Grosvenor หรือเทียบเท่า*

• ออกเดินทางสู่ ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) วันนี้เราขับรถไปบนถนนรอยัลไมล์ ถนนสายเก่าแก่ที่ยาวและใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างทางผ่านพระราชวังโฮลี่รู้ด พระราชวังเก่าแก่ที่มีความงดงาม เข้าชมภายในปราสาทเอดินบะระ  ปราสาทแห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และสมบัติล้ำค่า จัดแสดงประวัติศาสตร์ ชิ้นงาน วัตถุโบราณของชาวสกอตแลนด์ จากนั้นเข้าชมประวัติศาสตร์เครื่องดื่มประจำชาติของสกอตแลนด์ วิสกี้นั่นเอง ชมกรรมวิธีในการบ่ม ต้ม กลั่น บรรจุลงขวด และไม่พลาดที่จะชิมวิสกี้ชื่อดังของเมือง
• ช่วงบ่ายช้อปปิ้งถนนปริ๊นซ์สตรีท (Prince Street) บริเวณปริ๊นซ์สตรีท (Prince Street) จอร์จสตรีท (George Street) เส้นแบ่งเขตเมืองเก่าและเมืองใหม่  เต็มไปด้วยร้านค้า ห้างสรรพสินค้าสินค้าแบรนด์เนมมากมาย
• ที่พักโรงแรม Hilton Edinburgh Grosvenor หรือเทียบเท่า*

• มุ่งหน้าสู่ เมืองรอสลิน (Roslin) เข้าชม โบสถ์ Rosslyn Chapel โบสถ์เล็กทางใต้ที่มีชื่อเสียงจากหนังสือดังอย่าง รหัสลับดาวินซี(The Da Vinci Code) ของ แดน บราวน์ (Dan Brown) ที่นักอ่านรู้จักกันในนาม โบสถ์ปริศนาแห่งศาสนาคริสต์ ที่บริเวณผนังและหลังคาโบสถ์มีรหัสลับที่ช่างโบราณได้ฝากร่องรอยเอาไว้
• ตัวโบสถ์ทำจากหินที่มีการแกะสลักไปทั่วทุกบริเวณไม่ว่าจะเป็นหน้าต่าง เพดาน ผาผนังหรือตามเสาต่างๆ ซึ่งมีเสาหนึ่งต้นที่มีการแกะสลักเป็นรูปมังกร 8 ตัวเลื้อยพันเสา มีใบองุ่นงอกออกจากปากของมังกรซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเสาระดับตำนานในประวัติศาสตร์
• ช้อปปิ้งที่ Livingston Designer Outlet  (ระยะทาง 30 กิโลเมตร) ศูนย์รวมชั้นนำและสินค้าท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดมีร้านค้าแบรนด์ดังมากกว่า 70 ร้านค้า ก่อนออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานกรุงเอดินบะระ  ** อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย  **

• 21.25 น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 024/372  แวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานดูไบ เวลา 08.00 – 09.40 น.

• 18.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม