ทัวร์จอร์แดน – อียิปต์

โปรแกรมการเดินทาง ทัวร์จอร์แดน – อียิปต์ ประจำปี พ.ศ.2567

ทัวร์จอร์แดน ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เดดซี และ ดาวอังคารวาดีรัม

ทัวร์อียิปต์ เส้นทางสายอารยธรรมโบราณ ตามรอยฟาโรห์ ชมมหาพีระมิด

10 – 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 1 : กรุงเทพ – อัมมาน (Amman)

• 22:00 พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบิน Royal Jordanian

11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 2 : อัมมาน (Amman) – เจอราซ (Jerash)

• 00.25 น. ออกเดินทางสู่ประเทศจอร์แดน ด้วยสายการบิน Royal Jordanian RJ 183 (ระยะเวลาบิน 8 ชั่วโมง 45 นาที)
• 05.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ Queen Alia International Airport
• รับประทานอาหารเช้า
• เช้า เดินทางไปยัง เมืองเจอราซ (Jerash) หรือ“เมืองพันเสา”เป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ข องอาณาจักรโรมัน
  • โอวัลพลาซ่า (Oval Plaza) สถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง
  • วิหารเทพีอาร์เทมิส (Temple of Artemis) เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช
  • น้ำพุใจกลางเมือง (Nymphaeum) สร้างเพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา
• ชม ปราสาท Ajloun เป็นปราสาทมุสลิมในศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจอร์แดน ตั้งอยู่บนยอดเขาของ Jabal Ajlun (“Mount Ajlun”) หรือเรียกอีกอย่างว่า Jabal ‘Auf
• รับประทานอาหารเที่ยง
• บ่าย เดินทางกลับมายัง กรุงอัมมาน (Amman) เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน โดยกรุงอัมมานมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 6,000 ปี
  • ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่าง ๆรอบเมือง
  • โรงละครโรมัน (Roman Theater) อีกไฮไลท์หนึ่งของเมืองอัมมานโรงละครที่มีความเก่าแก่สมัยโรมันตั้งอยู่ใจกลางเมืองอัมมาน
• นำท่านเดินทางสู่เขตเมืองใหม่ของ กรุงอัมมาน (Amman) 
• รับประทานอาหารเย็นภายในภัตตาคารของโรงแรม
• พักที่ โรงแรม Grand Hyatt Amman หรือเทียบเท่า (ห้องพักชนิด Grand Room)

โอวัลพลาซ่า (Oval Plaza) สถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง

โรงละครด้านทิศใต้ (Southern Theatre)

ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel)

กรุงอัมมาน (Amman)

12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 3 : อัลซอลท์ (As-Salt) – ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea)

• รับประทานอาหารเช้า
• เดินทางไป เมืองอัลซอลท์ (As-Salt) เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงอัมมาน สร้างขึ้นบนภูเขาหลักสามแห่ง (Cadital, Gadaa และ Salalem) ที่ล้อมรอบด้วยจัตุรัส เมือง As-Salt ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์อันน่าทึ่งมีความเกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะเมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมัน
• รับประทานอาหารเที่ยงกับครอบครัวท้องถิ่น (Lunch with Local family)
• เดินทางต่อไปยัง ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) จุดที่ต่ำทีสุดในโลก มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซนต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ โดยสาเหตุของความเค็มเนื่องจากปริมาณน้ำได้ระเหยออกไปเรื่อยๆมาตั้งแต่โบราณกาลคงเหลือไว้แต่เกลือที่ยังอยู่ โดยทะเลสาบเดดซีเป็นส่วนหนึ่งของรอยแยกใหญ่ของแผ่นเปลือกโลกที่เรียกว่า African Great Rift ซึ่งในอนาคตทะเลสาบเดดซีจะเหลือเป็นเพียงประวัติศาสตร์ และพื้นที่ส่วนนี้จะแยกออกจากกันโดยมีน้ำทะเลมากั้น
• ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ริมทะเลสาบ
• พักที่ โรงแรม Hilton Dead Sea หรือเทียบเท่า (ห้องพักชนิด Sea View Room)
• อาหารค่ำภายในภัตตาคารของโรงแรม

เมืองอัลซอลท์ (As-Salt)

ถนนเดดซีไฮเวย์ (Dead Sea highway)

ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea)

การมาลอยตัวอ่านหนังสือที่เดดซี คือ กิจกรรมที่ห้ามพลาด

13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 4 : ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) – ทะเลทรายวาดีรัม (Wadi Rum)

• ถนน Desert highway ทางหลวงเส้นหลังของประเทศจอร์แดน มุ่งหน้าสู่เมือง ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi rum)
• รับประทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง
• บ่าย เดินทางถึง ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศซาอุฯเดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ (เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตรา)
• ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) มาเป็นที่รู้จักใน สงครามอาหรับรีโวลท์ (Arab Revolt) ระหว่างปีค.ศ. 1914 – 1918 ซึ่งเป็นสมรภูมิระหว่างกองทัพของเจ้าชายไฟซาลผู้นำของชาวอาหรับ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหราชอาณาจักรนำโดย นายทหารชาวอังกฤษที่ชื่อว่า ทีอี ลอว์เรนซ์ (T.E.Lawrence) เพื่อร่วมกันขับไล่พวกออตโตมาน (Ottoman Empire) ที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดน
• กิจกรรมนั่งรถ 4 WD ท่องทะเลทราย (Desert Tour) ที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดงอันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เริ่มต้นประมาณ 16.00 น. จนถึง พระอาทิตย์ตก)
  • Lawrence’s house จุดที่เชื่อว่าเป็นที่พักอาศัยของ ทีอี ลอว์เรนซ์
  • Lawrence’s Spring เป็นจุดที่ใช้เป็นที่บัญชาการทัพของ ทีอี ลอว์เรนซ์ ร่วมกับเจ้าชายไฟซาล
  • Seven Pillars of Wisdom ภูเขาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกๆคนต้องเห็น
  • Umm Fruth Rock Bridge สะพานหินชื่อดัง
  • The Martian สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Martian
  • Red Sand Dunes เนินทรายสีแดงอันยิ่งใหญ่ของวาดีรัม
  • The Anfashieh Inscriptions ภาพเขียนแกะสลักก่อนประวัติศาสตร์ที่เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียนที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันต่างๆ และรูปภาพต่าง ๆ
  • หมายเหตุ สถานที่ๆจะไป จะขึ้นกับแบบแผนเส้นทางในวันนั้นๆ
• กิจกรรมขี่อูฐภายในทะเลทราย เป็นระยะเวลาประมาณ 15-30 นาที
• ที่พัก แคมป์ Mazayen Wadi Rum หรือ Aladdin Camp หรือเทียบเท่า ห้องพักชนิด The Martian Dome
• รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟ่เฟต์ภายในแคมป์

Seven Pillars of Wisdom ภูเขาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกๆคนต้องเห็น

The Martian สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Martian

ที่พักยามค่ำคืนที่ทะเลทรายวาดีรัม

บรรยากาศยามเช้าของวาดีรัม

14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 5 : ลิตเติ้ลเพตรา (Petra)

• ถนน King’s Highway อีกหนึ่งถนนที่มีบรรยากาศข้างทางสวยที่สุดของประเทศจอร์แดน ผ่านหุบเหวหน้าผาต่างๆ ของ จอร์แดน วัลเลย์ (Jordan Valley) ชมวิถีชีวิตชาวจอร์แดนที่อาศัยอยู่ในเขตชนบทตลอดเส้นทาง
• ลิตเติ้ลเพตรา (Little Petra) ส่วนหนึ่งของอารยธรรม ชาวนาบาเทียน (Nabatean) ชนชาติผู้สร้างนครเพตรา รับฟังเรื่องราวของที่พักของอดีตกองทัพคาราวานที่มาอาศัยพื้นที่แห่งนี้เป็นโรงเตี๊ยมในสมัยโบราณก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่นครเพตราในเวลาถัดมา
• ชม พิพิธภัณฑ์เพตรา (Petra Museum) รับฟังเรื่องราวมหัศจรรย์ในการสร้างเพตรา เช่น เทคโนโลยีการกักเก็บน้ำในสมัยโบราณ
• เมือง วาดี มูซา (Wadi Musa) ศูนย์กลางการท่องเที่ยวนครเพตรา
• ที่พัก โรงแรม Petra Old Village (ห้องพักชนิด Standard Room)

ปราสาทโชบัค (Shobak) ปราสาทของนักรบครูเสดที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามศักดิ์สิทธิ์

ถนนมุ่งหน้าสู่ Little Petra

Petra Museum

15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 6 : นครเพตรา (Petra)

• รับประทานอาหารเช้า ภายในที่พัก
• เดินทางถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพตรา (Petra Visitor Centre) รับฟังข้อมูลเบื้องต้นจากไกด์ท้องถิ่นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้
• ในช่วงเช้าจะเป็น เส้นทางการเดินทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจนถึงภัตตาคาร Basin (ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นทางราบทั้งหมด) โดยท่านจะได้รับฟังเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ตลอดจุดแวะระหว่างทาง
• นครเพตรา (Petra) ที่ได้รับประกาศให้เป็นมรดกโลก และ เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก มหานครสีกุหลาบแกะสลักได้ถูกซ่อนตัวอย่างลึกลับใน หุบเขาวาดี มูซา (Wadi Musa) โดย ชาวนาบาเทียน (Nabatean) ได้สกัดผาหินทรายเป็นที่อยู่อาศัย และ นครแห่งนี้เคยเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ ก่อนหายสาบสูญไปจากโลกกว่า 700 ปีจนถูกค้นพบอีกครั้งเมื่อปี คศ. 1812 โดยนักสำรวจชาวสวิสเซอร์แลนด์นายโจฮันน์ ลุดวิก เบิร์กฮาดท์ ที่นี่จึงมีชื่อหนึ่งว่า “นครที่สูญหายไป The Lost City”
• มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอลคาซเนท์ (Al Khazneh หรือ The Treasury) ไอคอนของเพตรา ลักษณะเป็นวิหารที่เจาะหน้าผาหินและแกะสลักความสูงถึง 40 เมตร ของภูเขาที่มีลักษณะเป็นภูเขาสีชมพูทั้งลูกโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมของอียิปต์และโรมัน
• ชม โรงละครนาบาเทียน (Nabatean theatre) ที่แกะสลักจากภูเขาโดยมีแนวราบที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลได้อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเทียนต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครองได้ต่อเติมและสร้างเพิ่มเติม มีที่นั่ง 32 แถว จุผู้ชมได้ประมาณ 3,000 คน
• ชม Street of Facades ซึ่งเป็นถนนที่สองข้างทางประกอบไปด้วยวิหารใหญ่น้อยจำนวนมาก และท่านจะได้เห็น สุสานหลวง (Royal Tombs) ที่อยู่เหนือไปทางเนินผาด้านบน เป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์ชาวนาบาเทียนในสมัยโบราณ หลังจากนี้เราจะเข้าสู่ Colonnade Street หรือถนนหลวงกลางนครเพตราที่สองข้างทางประกอบด้วย วิหารสำคัญต่างๆ (Great Temple)
• รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร Basin Restaurant ภัตตาคารเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่กลางนครเพตรา
• บ่าย เดินทางสู่ The Monastery หนึ่งในสถานที่ไฮไลท์ที่สุดของเพตรา ที่นี่เป็นหนึ่งในภาพติดตาของคนทั่วโลกที่มีต่อเพตรา
• ***ในการเดินสู่ The Monastery ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ประกอบด้วยบันไดประมาณ 800 ขั้น ความสูงประมาณ 200 เมตร เราจะใช้ การขี่ลา (Donkey) ในขาขึ้น แต่ขาลงจะเป็นการเดินลง***
• หลังจากที่ท่องเที่ยวจนเต็มอิ่มที่ The Monastery เราจะเดินกลับมาเก็บภาพบรรยากาศสุดท้ายที่ The Treasury อีกครั้ง
• ***นั่งรถกอล์ฟจาก The Treasury กลับมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว***
• ที่พัก โรงแรม Petra Old Village พร้อมรับประทานอาหารค่ำ (ห้องพักชนิด Standard Room)
• กิจกรรมเพิ่มเติม “Petra by Night” ซึ่งเป็นกิจกรรมการชมนครเพตราในยามค่ำคืน ซึ่งกิจกรรมจะเริ่มต้นเวลาประมาณ 20.00 น. โดยจะเป็นการเริ่มต้นเดินจากทางเข้า ผ่านเส้นทางเดียวกับตอนเช้าและไปสุดทางที่ The Treasury แล้วนั่งฟังบรรยากาศการเล่าเรื่องราวต่างๆของนครเพตราพร้อมกับบรรเลงเพลงดนตรีแบบท้องถิ่น ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ท่ามกลางแสงเทียนและแสงดาวครับ โดยท่านที่สนใจทางบริษัทจะมีบริการรับ-ส่ง ท่าน ณ จุดเริ่มต้นเดินเท้า และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละ 25 USD สำหรับค่าเข้า Petra by Night ครับ

มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอลคาซเนท์ (Al Khazneh หรือ The Treasury)

The Monastery หนึ่งในสถานที่ไฮไลท์ที่สุดของเพตรา

มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอลคาซเนท์ (Al Khazneh หรือ The Treasury)

16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 7 : ปราสาทเครัค (Kerak castle) – อัมมาน – ไคโร (Cairo)

• ให้ท่านได้พักผ่อนภายในที่พักตามอัธยาศัย และเช็คเอาท์ออกจากที่พักเวลาประมาณ 10.30 น.
• เดินทางสู่ ปราสาทเครัค (Kerak Castle) ศูนย์กลางขนาดใหญ่ของนักรบครูเสดสร้างขึ้นเพื่อควบคุมเส้นทางเหนือและใต้และใช้ในการต่อสู้ในสงครามครูเสดกับกองทัพมุสลิม
• รับประทานอาหารเที่ยง ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
• เดินทางสู่ มาดาบา (Madaba) ศูนย์กลางที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำโมเสกเป็นศิลปะการตกแต่งด้วยชิ้นแก้ว, หิน,หรือกระเบื้องชิ้นเล็ก ชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ (Greek Orthodox Church of Antioch) ชมแผนที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวเยรูซาเลมที่ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ จำนวนกว่า 2.3 ล้านชิ้น
• เดินทางไปยัง ภูเขาเนโบ (Mount Nebo) เชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของ “โมเสส” ผู้นำชาวยิวเดินทางจากประเทศอียิปต์มายังเยรูซาเลม
• หลังจากนั้นเดินทางไปยังสนามบิน
• 15.00 น. เดินทางถึง สนามบิน Queen Alia International Airport
• 17.55 น. เดินทางสู่ ไคโร (Cairo) สายการบิน Royal Jordanian RJ 505 ระยะเวลาบิน 1 ชั่วโมง 35 นาที
• 18.30 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติไคโร (Cairo International Airport) ประเทศอียิปต์
• กรุงไคโร (Cairo) เป็นเมืองหลวงของประเทศอียิปต์ในปัจุบัน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ เป็นมหานครที่มีความทันสมัย เมืองเก่าแก่ที่มีอารยธรรมรุ่งเรืองในอดีตและยังคงหลงเหลือความโบราณอยู่ให้เห็นมากมาย เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง “ไคโร” ในภาษาอาหรับมีความหมายว่า “ชัยชนะ” ไคโรเป็นเมืองที่รบชนะทุกกองทัพที่มาตี รวมไปถึงกองทัพมองโกล กองทัพครูเสด หรือแม้แต่กองทัพออตโตมันก็ยังเอาชัยชนะไปไม่ได้ และไคโรยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญความล้ำค่าของวัฒนธรรมที่ติดอันดับโลกไว้มากมาย
• ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• ที่พัก โรงแรม Steigenberger Cairo Pyramid หรือเทียบเท่า (ห้องพักชนิด Pyramid View)

ปราสาทเครัค (Kerak)

17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 8 : ไคโร (Cairo) – เมมฟิส (Memphis)

เช้า

• รับประทานอาหารเช้า
• ชม ซัคคาร่า (Saqqara Necropolis) เพื่อชม พีระมิดขั้นบันได (Stepped Pyramids) พีระมิดแห่งแรกของอียิปต์ เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เป็นต้นแบบของพีระมิดในยุคต่อมา ที่นี่เราจะได้ทราบพื้นฐานของการสร้าง ตั้งแต่ผู้สร้างไปจนถึงวิธีการสร้าง การตัดหินและอื่นๆ อีกวิธีการก่อสร้างพีระมิดแห่งนี้
• เดินทางสู่ เมมฟิส (Memphis) เมืองหลวงเก่าแห่งแรก ในยุคอียิปต์โบราณ กว่า 5,000 ปี
• ชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนครเมมฟิส (Memphis Ramses II complex) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรูปแกะสลักขนาดยักษ์ ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ซึ่งแกะสลักจากหินแกรนิตสีชมพูที่นำมาจากเมืองอัสวาน
• รับประทานอาหารเที่ยง

บ่าย

• ชม “พีระมิดโค้ง” (Bent Pyramid) อายุเก่าแก่กว่า 4,600 ปี ในสุสานหลวงดาห์ชูร์ ใกล้กับกรุงไคโร พีระมิดโค้ง หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “พีระมิดเบี้ยว” สร้างขึ้นตามพระบัญชาของ ฟาโรห์สเนฟรู เมื่อราว 2,600 ปีก่อนคริสตกาล โดยให้มีรูปทรง “พีระมิดที่สมบูรณ์แบบ” ซึ่งมีลักษณะเรียบแหลมทำมุมลาดเอียง 54 องศา เหมือนพีระมิดที่เราเห็นกันทั่วไปในอียิปต์ แต่การที่พีระมิดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ดินเหนียวปนตะกอนทราย ซึ่งมีความอ่อนนุ่ม จึงทำให้เกิดการทรุดตัวลงในระหว่างการก่อสร้าง ส่งผลให้นายช่างผู้สร้างต้องแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนแบบการก่อสร้างกลางคัน โดยปรับความลาดชันของพีระมิดลงเหลือ 43 องศา
• หลังจากนั้นชม พีระมิดแดง (Red Pyramid)
• รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก โรงแรม Steigenberger Cairo Pyramid (ห้องพักชนิด Pyramid View Room)

Inside the Red Pyramid – The 61m. long passage leading to the master chamber

18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 9 : ไคโร (Cairo) – กีซา (Giza)

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• ชม มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza) กลุ่มพีระมิดขนาดใหญ่ใช้ระยะเวลาการสร้างถึง 20 ปี ใช้แรงงานการสร้างไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นคนจากการประเมินทางวิศวกรรมในปัจจุบันในการตัดหินแล้วย้ายมาวางซ้อนกันให้ชิดจนไม่มีสิ่งใดลอดผ่านได้ และยังได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณที่ยังคงเหลือมาถึงปัจจุบัน กลุ่มของมหาพีระมิดประกอบไปด้วยพีระมิดใหญ่ทั้งหมด 3 แห่งดังนี้
  • พีระมิดคูฟู (Khufu) หรือ มหาพีระมิดแห่งกิซ่า (The Great Pyramid of Giza) ที่เราเข้าใจกันซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน มีขนาดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า สร้างโดยฟาห์โรคูฟู ที่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นที่ประทับสำหรับการฟื้นคืนชีพ
  • พีระมิดคาเฟร (Khafre) ตั้งอยู่ตรงกลางของพีระมิดทั้ง 3 พีระมิดคาเฟรมีมหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) หินแกะสลักขนาดมหึมาที่มักปรากฏในภาพถ่ายคู่กับพีระมิดคาเฟร
  • พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) ขนาดเล็กที่สุดและเก่าแก่น้อยที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า
• นำท่านขี่อูฐเพื่อรับประสบการณ์และถ่ายภาพอันเป็นเอกลักษณ์คู่กับมหาพีระมิดแห่งกีซ่า
• ชม มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza)  ถือเป็นสฟิงซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแกะสลักจากหินก้อนขนาดมหึมาเพียงก้อนเดียว
• เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
• ชม พิพิธภัณฑ์แห่งอียิปต์ (Grand Egyptian Museum : GEM) สุดยอดไฮไลท์แห่งใหม่ของประเทศ พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสิ่งของโบราณไว้มากที่สุดในโลก รัฐบาลอียิปต์ได้ใช้เงินไปมากกว่า 20,000 ล้านบาทเพื่อเนรมิตรสิ่งมหัศจรรย์แห่งใหม่แก่กรุงไคโรด้วยขนาดพื้นที่กว่า 120 เอเคอร์จะทำให้ที่นี่จะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงสิ่งของโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก คอลเลคชั่นสิ่งของโบราณต่างๆรวมถึงมัมมี่ทั้งหมดจะถูกย้ายมาจัดแสดง ณ ที่แห่งนี้
• ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารริมแม่น้ำไนล์
• ที่พัก โรงแรม Steigenberger Hotel El Tahrir Cairo หรือเทียบเท่า (ห้องพักชนิด Pyramid View room)

มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza)

อูฐและมหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza)

19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 10 : ไคโร (Cairo) – อัมมาน (Amman)

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• 08.00 น. ออกเดินทางเที่ยวเมืองไคโรในช่วงเช้าถึงสาย
• ชม ป้อมปราการซาลาดิน (Salah El Din Al Ayouby Citadel) สร้างโดย ซาลาดิน (Saladin) ผู้นำราชวงศ์อายูบิด (Ayyubid Dynasty) นักรบวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลกอิสลามเพื่อป้องกันการรุกรานของนักรบครูเสด (Crusaders)
• ชม มัสยิดโมฮัมมัดอาลี (Mosque of Muhammad Ali) มัสยิดใจกลางเมืองที่สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมออตโตมัน
• เยือน คอปติคไคโร (Coptic Cairo) ถือเป็นหัวใจของชุมชนคริสเตียนในอียิปต์ และเป็นส่วนที่เก่าที่สุดของกรุงไคโรในปัจจุบัน กำแพงเมืองที่ล้อมรอบชุมชนช่วยกั้นความสับสนวุ่นวาย และความเจริญจากภายนอก ทำให้ชุมชนมีความเงียบสงบ และอยู่อย่างสันติ คอปติคไคโร คือหนึ่งในพื้นที่ที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงไคโรในการ สำรวจไฮไลท์ที่โดดเด่น เช่น The Hanging Church, Ben Ezra Synagogue ที่บ่อน้ำของโมเสส สถานที่ที่แม่ของโมเสสเอาลูกชายของเธอใส่ตะกร้าแล้วโยนเขาลงไปในแม่น้ำเพื่อเอาชีวิตรอดจากฟาโรห์
• เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
• บ่าย นำท่านเดินสู่ ตลาดข่าน เอล คาลิลิ (Khan El Khalili) ถือเป็นตลาดเก่าแก่ในอียิปต์ มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1382 มีร้านค้ากว่า 900 ร้าน ตลาดเส้นทางภายในที่ดัดแปลงอาคารทรงเก่าแก่แบบอาหรับโบราณเป็นร้านค้า หากเดินลึกเข้าไปมีร้านค้าที่คงเอกลักษณ์แบบโบราณของกรุงไคโร โดยสินค้าที่จำหน่ายมีหลาก อาทิ เครื่องแก้ว เครื่องทองเหลือง น้ำหอม อัญมณี ของพื้นเมือง อาทิ ขวดน้ำหอมทำด้วยมือ พรม เครื่องทองรูปพรรณ และเพชรพลอยลวดลายแบบอาหรับ ที่นี่คือสถานที่สำหรับให้ทุกท่านได้จับจ่ายเลือกซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ตามอัธยาศัย
• 16.00 น. นำคณะเดินทางสู่ สนามบินไคโร เพื่อบินกลับกรุงเทพฯ
• รับประทานอาหารค่ำ (ตามอัธยาศัย)
• 19.55 น. เดินทางสู่ อัมมาน (Amman) สายการบิน Royal Jordanian RJ 506 ระยะเวลาบิน 1 ชั่วโมง 20 นาที
• 22.15 น. เดินทางถึง อัมมาน (Amman) พักเปลี่ยนเครื่อง 4 ชั่วโมง

มัสยิด Sultan Hassan

ตลาดข่าน เอล คาลิลิ (Khan El Khalili)

20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 วันที่ 11 : อัมมาน (Amman) – กรุงเทพ

• 02.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ด้วยสายการบิน Royal Jordanian RJ 182 (ระยะเวลาบิน 9 ชั่วโมง)
• 14.25 น. เดินทางถึงกรุงเทพ

ราคาแพคเกจ (ผู้ใหญ่ 6 ท่าน + เด็ก 1)

• ผู้ใหญ่ ท่านละ 139,000 บาท (พักห้อง Twin room)
• เด็ก ราคา 77,000 บาท (พักร่วมกับผู้ใหญ่)

สิ่งที่รวม

• ค่าพาหนะเดินทางระหว่างเมืองตามที่ระบุไว้ พาหนะเดินทางชนิด Mercedes Splinter 17-seat
• ค่าวีซ่า (Visa) ประเทศจอร์แดน และ อียิปต์
• ค่าทีมงานไกด์ท้องถิ่น คนขับรถท้องถิ่น
• ค่าไกด์ชาวไทย
• ค่าธรรมเนียมเข้าเขตสถานที่ท่องเที่ยวและอุทยานทุกแห่งตามที่ระบุไว้
• ค่าโรงแรมที่พัก และ ห้องพัก ตามชนิดที่ได้ระบุไว้
• ค่าที่พักชนิด The Martian Dome ที่ทะเลทรายวาดิรัม
• ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุไว้
• ค่าบริการรถกอล์ฟที่นครเพตรา
• ค่าบริการขี่อูฐ (camel riding) 30 นาที ที่ทะเลทรายวาดิรัม

สิ่งที่ไม่รวม

• ค่าตั๋วเครื่องบิน
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
• ค่าน้ำหนักกระเป๋าส่วนเกินของสายการบิน
• ค่าเข้า Petra by Night ท่านละ 17 JD (ประมาณ 25 USD)
• ค่าทิปต่างๆ

ราคาตั๋วเครื่องบิน (Royal Jordanian Airline)

• Business class ท่านละ 96,500 บาท
• Economy class ท่านละ 40,500 บาท
• Economy class (Child) 34,600