ช็อคโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าทึ่งและมีเอกลักษณ์ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเกาะโบโฮล (Bohol) ของประเทศฟิลิปปินส์ เนินเขาเหล่านี้มีรูปร่างและขนาดที่คล้ายคลึงกันจำนวนมากจนสร้างภาพที่สวยงามและแปลกตา ซึ่งทำให้ช็อคโกแลตฮิลส์กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของฟิลิปปินส์
ช็อคโกแลตฮิลส์
ช็อคโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) เป็นภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นเนินเขากลมเล็ก ๆ กว่า 1,260 ลูก ตั้งอยู่บนเกาะโบโฮล (Bohol) ในประเทศฟิลิปปินส์ เนินเขาเหล่านี้มีความสูงประมาณ 30 ถึง 50 เมตร และมีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมองจากระยะไกล เนินเขาเหล่านี้จะมีลักษณะเป็นลอน ๆ คล้ายกับลูกช็อคโกแลต จึงได้รับการขนานนามว่า “ช็อคโกแลตฮิลส์”
ในช่วงฤดูร้อน เนินเขาจะเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ดูเหมือนช็อคโกแลต ในขณะที่ในช่วงฤดูฝน เนินเขาจะมีสีเขียวสดใสเพราะถูกปกคลุมด้วยหญ้า
การก่อตัวของช็อคโกแลตฮิลส์
การก่อตัวของช็อคโกแลตฮิลส์เป็นผลมาจากกระบวนการทางธรรมชาติที่ซับซ้อนและใช้เวลาหลายล้านปี โดยกระบวนการหลักที่นำไปสู่การก่อตัวของภูเขาเหล่านี้ได้แก่:
- การยกตัวของพื้นดิน: ช็อคโกแลตฮิลส์เกิดจากการยกตัวของพื้นดินที่มีส่วนประกอบหลักเป็นหินปูน (limestone) ซึ่งเกิดขึ้นจากการตกสะสมของสิ่งมีชีวิตในทะเลเช่นปะการังและหอยในอดีตเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อเปลือกโลกมีการเคลื่อนที่ ทำให้พื้นที่นี้ยกตัวขึ้นเหนือระดับน้ำทะเล
- การกัดกร่อนและการชะล้าง: หลังจากพื้นดินยกตัวขึ้น กระบวนการกัดกร่อนและการชะล้างโดยน้ำฝนและแม่น้ำได้เกิดขึ้นเป็นเวลานานหลายล้านปี ทำให้หินปูนที่เคยเป็นพื้นที่เรียบถูกกัดเซาะเป็นรูปทรงที่มีลักษณะเฉพาะของช็อคโกแลตฮิลส์
- กระบวนการคาร์สท์ (Karst): การก่อตัวของช็อคโกแลตฮิลส์เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคาร์สท์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดจากการละลายของหินปูนโดยน้ำที่มีกรดคาร์บอนิก (Carbonic Acid) ส่งผลให้เกิดถ้ำ ช่องเขา และรูปทรงที่แปลกตา
- การสะสมของดินและพืชพรรณ: เมื่อกระบวนการกัดกร่อนสิ้นสุดลง ดินและพืชพรรณเริ่มสะสมตัวบนพื้นผิวของช็อคโกแลตฮิลส์ ทำให้ภูเขาเหล่านี้มีลักษณะเป็นก้อนเนินเขาที่ปกคลุมด้วยหญ้า เมื่อถึงฤดูแล้ง หญ้าจะแห้งและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ทำให้ช็อคโกแลตฮิลส์ดูเหมือนก้อนช็อคโกแลต
ตำนานของเขาช็อคโกแลต
ช็อคโกแลตฮิลส์มีตำนานและเรื่องเล่ามากมายที่สร้างความเชื่อมโยงกับความเป็นมาของภูมิประเทศนี้ เรื่องเล่าที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดมีดังนี้:
- ตำนานของยักษ์: มีตำนานเล่าว่าในอดีตมียักษ์สองตนชื่อ Arogo และ Tingu ที่มีพลังมหาศาล ทั้งสองเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดและขว้างก้อนหิน ดิน และทรายใส่กัน จนเกิดเป็นเนินเขาจำนวนมาก เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ทั้งสองได้กลายเป็นเพื่อนและทิ้งเนินเขาเหล่านี้ไว้เบื้องหลัง
- ตำนานของความรัก: อีกตำนานหนึ่งเล่าว่ายักษ์ชื่อ Arogo ตกหลุมรักหญิงมนุษย์ชื่อ Aloya เมื่อ Aloya เสียชีวิต Arogo เสียใจมากจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด น้ำตาของเขากลายเป็นเนินเขาจำนวนมากที่เรามองเห็นในปัจจุบัน
- ตำนานของชาวนา: ตำนานพื้นบ้านเล่าว่ามีชาวนาชื่อ Rogelio ที่ปลูกข้าวในพื้นที่นี้ วันหนึ่งเขาพบว่าควายของเขากำลังทำลายข้าวที่ปลูกไว้ด้วยการกินข้าวและทำลายดิน ชาวนาโกรธและตัดสินใจที่จะรวบรวมมูลของควายและทิ้งไว้บนเนินเขาเหล่านี้ จนเกิดเป็นช็อคโกแลตฮิลส์ในที่สุด
ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงาม
ความงดงามของช็อคโกแลตฮิลส์อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงของสีและลักษณะในแต่ละฤดูกาล ในช่วงฤดูฝน เนินเขาจะถูกปกคลุมด้วยหญ้าสีเขียวสดใส แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง หญ้าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ทำให้เนินเขาดูเหมือนกองช็อคโกแลต ความงดงามนี้เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ช็อคโกแลตฮิลส์โดดเด่นและไม่เหมือนใคร
การถ่ายภาพที่ช็อคโกแลตฮิลส์
ช็อคโกแลตฮิลส์เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นนักถ่ายภาพมืออาชีพหรือมือสมัครเล่น ทุกคนสามารถหามุมที่สวยงามและน่าประทับใจได้ที่นี่ การถ่ายภาพในช่วงเวลาต่างๆ ของวันจะให้ภาพที่มีแสงและเงาแตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้ภาพถ่ายที่ได้มีความหลากหลายและน่าสนใจ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพที่ช็อคโกแลตฮิลส์คือช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็น เมื่อแสงแดดส่องทำมุมเฉียงกับเนินเขา ทำให้เกิดแสงและเงาที่สวยงาม นอกจากนี้ในช่วงฤดูแล้ง เนินเขาที่เป็นสีน้ำตาลจะดูโดดเด่นและงดงามเป็นพิเศษ ทำให้ได้ภาพที่เหมือนกับช็อคโกแลตแท้ๆ
กิจกรรมท่องเที่ยวที่ช็อคโกแลตฮิลส์
นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมหลากหลายที่ช็อคโกแลตฮิลส์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การปั่นจักรยาน การขี่ม้า หรือการขับรถ ATV เพื่อสำรวจเนินเขาและภูมิประเทศที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการบินร่ม (paragliding) ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวช็อคโกแลตฮิลส์จากมุมสูงได้อีกด้วย
ช็อคโกแลตฮิลส์เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าทึ่งและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปเยือนเมื่อมีโอกาส นอกจากจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ทำให้เกิดภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์นี้อีกด้วย
สรุป
ช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขาธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในฟิลิปปินส์ เป็นสถานที่ที่รวมเอาความงดงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติไว้อย่างลงตัว ด้วยรูปร่างและลักษณะที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสีในแต่ละฤดูกาล ทำให้ช็อคโกแลตฮิลส์เป็นสถานที่ที่ต้องไปเห็นด้วยตาตนเอง
ความงดงามของช็อคโกแลตฮิลส์ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ยังสื่อถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมและตำนานท้องถิ่นของฟิลิปปินส์ การเยี่ยมชมที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังเป็นการเรียนรู้และเข้าใจถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพื้นที่นี้
ด้วยความงดงามที่ไม่เหมือนใครและประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง ช็อคโกแลตฮิลส์จึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่รักในธรรมชาติ เป็นสถานที่ที่สามารถสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน
ชมบทความฟิลิปปินส์อื่นๆได้ที่นี้