เที่ยว หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten Archipelago)
เที่ยวโลโฟเทน (Lofoten) ภาพบ้านไม้สีแดงสดบนโขดหินริมชายฝั่งที่มีฉากหลังเป็นภูเขาหินลูกใหญ่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน สีขาวของหิมะขับให้สีสันของบ้านเด่นชัด ราวกับเป็นบ้านในการ์ตูนที่ไม่มีอยู่จริงในโลกใบนี้…
แต่ความเป็นจริงภาพบ้านการ์ตูนสีแดงสดนี้เป็นภาพของหมู่บ้านชาวประมงใน หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten Archipelago) ที่มีอยู่จริง เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหมู่เกาะโลโฟเทนและบ้านชาวประมงสีแดงกันให้มากขึ้น
หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten Archipelago) เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ใน มณฑลนูร์ลันด์ (Nordland) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ประชากรส่วนใหญ่บนหมู่เกาะแห่งนี้ยังคงทำการประมงเป็นหลัก เราจึงได้เห็นหมู่บ้านชาวประมงสีสันสดใสกระจายอยู่ทั่วไปตามเกาะเล็ก เกาะน้อยต่างๆ ที่ประกอบรวมกันเป็นหมู่เกาะโลโฟเทน เกาะหลักๆ ใหญ่ๆ ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมีด้วยกันห้าเกาะ ได้แก่ Austvågøy, Gimsøya, Vestvågøy, Flakstadøya, และ Moskenesøya ทุกเกาะเชื่อมต่อกันด้วยถนนสายหลัก E10 (European route E10) และแต่ละเกาะมีสะพานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง (ทุกเกาะล้วนเรียกชื่อยากพอสมควร)
เวลาที่เรามาเที่ยวโลโฟเทน เรามักจะหมายถึงการเดินทางท่องเที่ยวในหมู่เกาะทั้ง 5 ดังที่ได้กล่าวมา
เที่ยวโลโฟเทน Lofoten ….หมู่เกาะในฝัน
โลโฟเทน (Lofoten) มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหินแกรนิตสูงตระหง่าน สลับซับซ้อน เรียงรายริมชายฝั่งทะเล มีหน้าผาสูงชันที่รายล้อมไปด้วยอ่าวเล็กๆ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งจนเว้าแหว่งกร่อนเข้าไปในแผ่นดินเกิดเป็น ฟยอร์ด (Fjord) ที่สวยงามแปลกตา แต่งแต้มสีสันด้วย บ้านชาวประมง สีแดงแบบดั้งเดิมสีสันสดใส ที่เรียกว่า Rorbuer กระจายอยู่ทั่วทั้งเกาะ
นอร์เวย์ (Norway) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใน เขตวงกลมอาร์กติก (Arctic Circle) คือ วงกลมละติจูดเหนือสุดในบรรดาห้าวงกลมหลักบนแผนที่โลก ทำให้ที่นี่มีปรากฏการณ์ที่พระอาทิตย์ลอยอยู่เหนือขอบฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ปีละครั้งในช่วงฤดูร้อนของยุโรป เราจึงได้เห็นพระอาทิตย์ในตอนกลางคืนหรือที่เรียกกันว่า “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” และในช่วงฤดูหนาวยังเป็นช่วงเวลาที่ชมแสงเหนือเต้นระบำอย่างสวยงาม ทั้งหมดนี้รวมกันทำให้โลโฟเทน กลายเป็นหมู่เกาะในฝันที่ใครหลายคนปักหมุดหมายเอาไว้ว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต
เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับหมู่บ้านชาวประมง Rorbuer
อาชีพหลักของผู้คนบนหมู่เกาะโลโฟเทนโดยส่วนใหญ่ยังคงทำการประมงด้วยการจับ ปลาค็อด (Cod) นำมาตากแห้ง เราจึงจะเห็นภาพราวตากปลาค็อดอยู่ทั่วไปทุกเกาะ ปลาค็อดตากแห้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของโลโฟเทน ใครมาถึงหมู่เกาะแห่งนี้ต้องได้ลิ้มรสปลาค็อดถึงจะได้ชื่อว่ามาถึงโลโฟเทนแล้ว
นอกจากปลาค็อดตากแห้งแล้วยังมี โรงงานผลิตน้ำมันตับปลาค็อด (Cod Liver Oil Factory) และ ฟาร์มเลี้ยงปลาแซลมอน (Salmon) สายพันธุ์แอตแลนติกเป็นฟาร์มเลี้ยงที่อยู่กลางทะเลเพื่อให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ และเป็นที่รู้กันว่านอร์เวย์เป็นประเทศที่ผลิตปลาแซลมอนรายใหญ่และส่งออกแซลมอนคุณภาพดีไปทั่วโลก!!!
บนหมู่เกาะโลโฟเทนนี้มีหมู่บ้านชาวประมงมากมายที่น่าสนใจโดยเริ่มจากหมู่บ้านบนเกาะทางตอนใต้สุดไปจนถึงเกาะทางตอนเหนือสุดของหมู่เกาะโลโฟเทน
เที่ยวโลโฟเทน Lofoten เริ่มกันที่เกาะ Moskenesøya
หมู่บ้านออ (Å Village)
หมู่บ้านเล็กน่ารักๆ หมู่บ้านสุดท้ายของเกาะนี้ และเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่แต่ละหลังมีเรื่องราวแตกต่างกัน บ้านบางหลังเคยเป็นไปรษณีย์ของหมู่บ้านมาก่อน ในหมู่บ้านออยังมี พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (Norwegian Fishing Village Museum) ที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตชาวประมงของหมู่บ้านออที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 250 ปี
หมู่บ้านไรเนอ (Reine)
หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ประกอบด้วยประชากรเพียงสามร้อยคน มีบ้านชาวประมงสีแดงแบบดั้งเดิม ซึ่งส่วนหนึ่งได้ถูกดัดแปลงทำเป็นโรงแรมที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแต่ยังคงรูปแบบ Rorbuer ไว้เช่นเดิม หมู่บ้านไรเนอ ได้รับการยกย่องจากนิตรสารชื่อดังของนอร์เวย์ให้เป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นจุดหมายปลายทางที่ช่างภาพและผู้ที่รักการถ่ายภาพต้องมาเยือน
หมู่บ้านซากริซอย (Sakrisoy)
หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของภูเขาโอล์สตินด์ (Olstind) เป็นหมู่บ้านที่มีความแตกต่างจากหมู่บ้านชาวประมงอื่นตรงที่ สีของตัวบ้านเป็นสีเหลืองสดไม่ใช่สีแดงแบบที่เห็นโดยปกติทั่วไป มีราวไม้สำหรับตากปลาที่แน่นไปด้วยปลาค็อดจำนวนมากที่ชาวประมงหามาได้ บ่งบอกถึงการทำประมงอย่างจริงจังของคนที่นี่ภาพราวตากปลาค็อดที่แน่นขนัดกับบ้านชาวประมงสีเหลืองสดตัดกับฉากหลังที่เป็นภูเขาหิมะสีขาว เป็นภาพจำที่ประทับใจผู้มาเยือนและยากที่จะลืมหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้
หมู่บ้านฮัมนอย (Hannoy)
ถ้าจะกล่าวว่าหมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน ที่ใครหลายคนเห็นเป็นต้องอยากมาที่เกาะแห่งนี้ก็คงไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงอะไรนัก เพราะภาพบ้านชาวประมงแบบดั้งเดิมสีแดงสดบนโขดหินริมทะเล มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะสูงใหญ่ เป็นภาพที่เราเห็นได้ในนิตรสาร, โปสการ์ด หรือภาพจากช่างภาพทั้งมืออาชีพและจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่บ่อยๆ นั่นเอง หมู่บ้านฮัมนอยแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ดูแสงเหนือที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ ยามเมื่อแสงเหนือพาดผ่านหลังเทือกเขาตัดกับแสงไฟของหมู่บ้านชาวประมงในยามค่ำคืน เป็นภาพที่งดงามตราตรึงในใจผู้ได้พบเห็นเสมอ
เกาะ Flakstadøya
หมู่บ้านชาวประมงนัสฟยอร์ด (Nusfjord Fisherman Village)
สัมผัสบรรยากาศหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่สุดและยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีได้ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่สวยงามเป็นภูเขาสลับแม่น้ำและมีทะเลสาบที่สะท้อนภาพทิวเขาบนผืนน้ำใสวับราวกับภาพวาด เพิ่มสีสันด้วยบ้านชาวประมงหลากสีสดใสทั้งสีแดง สีเหลือง และสีขาว ทำให้หมู่บ้านนัสฟยอร์ดแห่งนี้ดูแตกต่างจากหมู่บ้านชาวประมงอื่นในหมู่เกาะโลโฟเทนที่ส่วนมากจะเป็นบ้านสีแดง
เกาะ Vestvågøy
ระหว่างทางก่อนจะไปถึงหมู่บ้านชาวประมงถัดไป แวะชม พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (Lofotr Vikingmuseum) ตั้งอยู่ริมถนนหลักสาย E10 ในหมู่บ้านเล็กๆ ของเมืองบอร์ก (Borg) เป็นพิพิธภัณฑ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ สร้างขึ้นบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ขุดพบบ้านหัวหน้าเผ่าของชาวไวกิ้ง ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์เป็นบ้านแบบยาวขนาดใหญ่ความยาว 80 เมตร สร้างขึ้นโดยการบูรณะจากบ้านเดิมของหัวหน้าเผ่าชาวไวกิ้ง เชื่อกันว่านี่เป็นโครงสร้างอาคารของชาวไวกิ้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบในประเทศนอร์เวย์ ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของชาวไวกิ้ง มีอาหารแบบชาวไวกิ้ง และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับชาวไวกิ้ง ไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนที่อยากจะสัมผัสวิถีชีวิตชาวไวกิ้งสักครั้ง
เกาะ Austvågøy เกาะทางเหนือสุดของหมู่เกาะโลโฟเทน
หมู่บ้านเฮนนิงสวาร์ (Henningsvaer)
เป็นหมู่บ้านชาวประมงอีกแห่งหนึ่งที่มีความหลากหลายของสีสัน คึกคักไปด้วยเรือประมงหลากสีที่จอดแน่นขนัดเรียงรายอยู่ริมอ่าว บ่งบอกถึงความจริงจังในเรื่องการทำประมงของคนในหมู่บ้านนี้ นอกจากจริงจังเรื่องการทำประมงแล้วเรื่องฟุตบอลก็ไม่น้อยหน้าใคร เพราะที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “เฮนนิงสวาร์ สเตเดี้ยม” (Henningsvær Stadion) สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามจนคนทั้งโลกต้องอิจฉา เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ บนเกาะกลางทะเลอีกแห่งหนึ่งที่เราไม่อยากให้คุณขับรถผ่านไปเฉยๆ
บ้านชาวประมงสีแดง ทำไมต้องสีแดง??
จะเห็นว่าบ้านชาวประมงบนโลโฟเทนมีทั้งสีแดง, สีเหลือง, สีเขียว และสีขาว แต่ทำไมชาวประมงโดยส่วนมากถึงต้องทาบ้านเป็นสีแดงด้วยหล่ะ? หลายคนคงมีคำถามนี้อยู่ในใจ สาเหตุที่ชาวประมงนิยมทาบ้านด้วยสีแดง เพราะ ในอดีตสีแดงเกิดจากการผสมสีเหลืองสดกับน้ำมันตับปลา หรือผสมกับน้ำมันพืช หรือน้ำมันจากสัตว์อื่นๆ ก็ได้ สีแดงจึงเป็นสีที่นิยมมากที่สุดเพราะวัสดุหาง่ายในท้องถิ่นและมีราคาไม่แพง
ชาวประมงที่มีฐานะขึ้นมาอีกนิดหรือฐานะระดับปานกลาง นิยมทาสีบ้านด้วยสีเหลืองการผสมสีคล้ายๆ กับสีแดงต่างกันตรงที่ใช้สีเหลืองสดผสมกับน้ำมันตับปลาค็อด (Cod Liver Oil) ทำให้มีราคาแพงกว่าสีแดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรปลาค็อดก็ไม่ได้หายากเกินไปสำหรับชาวประมงบนเกาะแห่งนี้
ส่วน สีขาว เป็นสีที่มีราคาแพงที่สุด เพราะเกิดจากการใช้แร่สังกะสีมาทำให้เกิดเป็นสีขาว ชาวประมงที่มีฐานะร่ำรวยจึงนิยมทาสีบ้านด้วยสีขาวเพื่อบ่งบอกถึงความมั่งคั่งทางฐานะ แต่อาคารที่ใช้เก็บผลผลิตยังคงทาด้วยสีแดงตามปกติทั่วไป
นอกจากหมู่บ้านชาวประมงแล้วบนหมู่เกาะโลโฟเทนยังมีอีกหลายมุมที่น่าสนใจ จนทำให้คิดไปว่าการทำความรู้จักหมู่เกาะในฝันแห่งนี้ครั้งเดียวอาจยังไม่พอ…
ที่มาของบทความ
- Why are Norwegian houses painted red?
- https://www.earthtrekkers.com/lofoten-islands-itinerary-travel-guide/
อ่านบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอื่นๆต่อได้ที่ >>> https://www.patourlogy.com/blog/inspiration
สนใจทัวร์ส่วนตัว และโปรแกรมทัวร์ คลิ๊ก >>> https://www.patourlogy.com/ทริปทัวร์เดินทาง
สนใจอยากไปที่หมู่บ้านออ ดูได้ที่นี่ครับ >> https://www.patourlogy.com/tour/ทัวร์โลโฟเทน-ทรอมโซ