หน้าร้อนของญี่ปุ่น (มิถุนายน–สิงหาคม) ไม่ใช่แค่ฤดูร้อนธรรมดา แต่เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยสีสัน เทศกาล และประสบการณ์เฉพาะฤดูที่นักท่องเที่ยวหลายคนยังไม่เคยสัมผัส หากคุณเคยไปญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูหนาวมาแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศ มาสัมผัสกลิ่นอายของ “ซัมเมอร์ญี่ปุ่น” กับ 8 ที่เที่ยวสุดชิลที่ห้ามพลาด!
ทำไมต้อง “เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน”
จุดเด่นซัมเมอร์ญี่ปุ่นที่แตกต่างจากฤดูอื่น
หน้าร้อนในญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 25–35°C บางพื้นที่อาจร้อนชื้น แต่ก็แลกมากับกิจกรรมกลางแจ้งที่สนุกและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการชมเทศกาลดอกไม้ไฟริมแม่น้ำ กินของอร่อยจากฟู้ดทรัก นั่งชิลริมหาด หรือเที่ยวสวนดอกไม้ที่เบ่งบานเต็มที่
หน้าร้อนยังเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นมี “เทศกาลวัฒนธรรม” มากที่สุดในรอบปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม ทั้งเทศกาลโยซาโค่ย เทศกาลโอบ้ง หรือเทศกาลเนบุตะที่เต็มไปด้วยขบวนแห่สุดตระการตา
8 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนสุดชิล
1. ชมดอกไม้ไฟฤดูร้อน
ไม่มีอะไรจะเป็นญี่ปุ่นหน้าร้อนไปมากกว่าการ “ชมดอกไม้ไฟ” เทศกาล Hanabi Taikai จัดขึ้นทั่วประเทศในช่วงกรกฎาคม–สิงหาคม จุดที่โด่งดัง เช่น เทศกาล Sumidagawa ในโตเกียว และ Nagaoka Fireworks ในจังหวัดนีงาตะ
การชมดอกไม้ไฟในญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ดูแสงสี แต่คือประสบการณ์ทั้งวัฒนธรรมและบรรยากาศ ผู้คนใส่ยูกาตะ พากันมาปูนั่งริมแม่น้ำ กินทาโกะยากิ และรอดูพลุสุดอลังการที่ตกแต่งฟ้าญี่ปุ่นในค่ำคืนหน้าร้อน
ขอบคุณภาพจาก : kiji.life
2. นอนชิลริมชายหาดโอกินาว่า
โอกินาว่าคือสวรรค์ของคนรักทะเล น้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาวสะอาด และบรรยากาศสบายๆ ทำให้เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมในฤดูร้อน
แนะนำหาด Maehama Beach, Emerald Beach และ Sesoko Beach ซึ่งเงียบสงบและมีวิวสวยงามเหมาะกับการพักผ่อน หรือจะเลือกดำน้ำตื้นชมปะการังรอบเกาะ Tokashiki ก็เป็นกิจกรรมยอดฮิตเช่นกัน
3. เดินเล่นในสวนดอกไม้ฮอกไกโด
ฮอกไกโดในหน้าร้อนสวยงามราวกับอยู่ในยุโรป โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่งทั่วฟุราโนะและบิเอะ
สวนดอกไม้ที่ห้ามพลาด เช่น Farm Tomita, Shikisai-no-Oka และ Hokusei Hill Park เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป หรือขี่จักรยานท่ามกลางดอกไม้และทิวทัศน์ภูเขาไฟ
ขอบคุณภาพจาก : visit-hokkaido.jp
4. แช่ออนเซ็นฤดูร้อนที่เบปปุ
ใครว่าแช่ออนเซ็นต้องเป็นฤดูหนาวเท่านั้น? เบปปุ จังหวัดโออิตะ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งออนเซ็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และเปิดบริการตลอดปี รวมถึงฤดูร้อน
การแช่น้ำแร่ร้อนในบรรยากาศหน้าร้อนเป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายไม่แพ้ฤดูอื่น โดยเฉพาะออนเซ็นกลางแจ้งที่มีวิวธรรมชาติ เช่น Umi Jigoku หรือ Takegawara Onsen แถมยังมี “บ่อโคลน” และ “บ่อไอน้ำ” ให้เลือกหลากหลาย
ขอบคุณภาพจาก : mytravelbuzzg.com
5. เที่ยวฟู้ดทรักและตลาดกลางคืน
ช่วงหน้าร้อนหลายเมืองของญี่ปุ่นจะเปิด “ตลาดกลางคืน” หรือ Night Market ชั่วคราว เช่น ในโตเกียว โอซาก้า และฟุกุโอกะ โดยมีฟู้ดทรักขายอาหารพื้นเมือง เช่น ยากิโทริ โอโคโนมิยากิ และเครื่องดื่มเย็นสดชื่นอย่างรามูเนะ
ตลาดเหล่านี้มักจัดใกล้สวนสาธารณะหรือสถานที่จัดงานเทศกาล เหมาะสำหรับเดินเล่น กินของอร่อย และสัมผัสชีวิตยามค่ำคืนแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
6. ร่วมเทศกาลโอบ้งในเกียวโต
โอบ้ง (Obon) คือเทศกาลบูชาบรรพบุรุษของชาวญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นกลางเดือนสิงหาคม หลายเมืองมีการจัดพิธีเฉพาะถิ่น เช่น ขบวนแห่ จุดไฟ หรือการเต้นบงโอโดริ
ที่เกียวโตมี “Daimonji Gozan Okuribi” ซึ่งเป็นพิธีจุดไฟรูปตัวอักษรบนภูเขาทั้งห้าลูก รอบตัวเมืองในคืนวันที่ 16 สิงหาคม เป็นภาพที่ทั้งสวยงามและศักดิ์สิทธิ์ แสดงถึงความเคารพบรรพบุรุษตามแบบชาวญี่ปุ่นดั้งเดิม
ขอบคุณภาพจาก : diversity-finder.net
7. ชิมผลไม้ซัมเมอร์ที่ยามานาชิ
จังหวัดยามานาชิ ได้ชื่อว่าเป็น “อาณาจักรแห่งผลไม้” ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่มีผลไม้สดชื่นให้เลือกมากมาย เช่น องุ่น พีช เชอร์รี่ และเมลอน
หลายสวนเปิดให้เข้าเก็บผลไม้ด้วยตนเอง (Fruit Picking) เช่น Fuefuki Fruit Park และ Katsunuma Grapes Garden ซึ่งเหมาะกับการพาครอบครัวหรือเพื่อนไปทำกิจกรรมสนุกๆ ในวันอากาศดี
8. ขึ้นภูเขาไฟฟูจิชมวิวพระอาทิตย์ตก
ฤดูร้อนคือช่วงเดียวของปีที่ภูเขาไฟฟูจิเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นเขาได้ โดยมักเริ่มตั้งแต่ต้นกรกฎาคมถึงต้นกันยายน เส้นทางยอดนิยมคือ Yoshida Trail ซึ่งมีที่พักบนภูเขาให้แวะพักก่อนถึงยอด
กิจกรรมที่เป็นไฮไลต์คือ “ชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกบนยอดเขา” (Goraiko) ซึ่งให้ภาพสุดประทับใจของแสงสีทองที่ตัดกับยอดเขาฟูจิอันงดงาม เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ต้องมีสักครั้งในชีวิต
วิธีเตรียมตัวก่อนออกซัมเมอร์ทริปญี่ปุ่น
แม้ญี่ปุ่นหน้าร้อนจะเต็มไปด้วยเทศกาลและธรรมชาติสวยงาม แต่ด้วยอากาศร้อนและความแออัดในบางเมือง การเตรียมตัวล่วงหน้าจึงเป็นกุญแจสำคัญในการเที่ยวอย่างสนุก ไม่เหนื่อย และคุ้มค่าทุกบาททุกนาที
1. เลือกเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันแดดให้เหมาะสม
หน้าร้อนของญี่ปุ่นมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28–35°C โดยเฉพาะในเมืองใหญ่เช่น โตเกียว โอซาก้า อาจมีความชื้นสูงและอากาศอบอ้าว ควรเลือกเสื้อผ้าที่เบา ระบายอากาศดี เช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน
สิ่งที่ควรเตรียม:
- เสื้อแขนยาวกันแดดบางเบา
- หมวกปีกกว้าง หรือหมวกพับเก็บได้
- ร่มพับ (ช่วยทั้งกันแดดและฝน)
- ครีมกันแดด SPF50+
- แว่นกันแดด UV
- ผ้าเย็นหรือ Cooling Sheet สำหรับเช็ดหน้า
- พัดพกพา / พัดลมพกพาแบบชาร์จไฟ
เคล็ดลับ:
หลายเมืองในญี่ปุ่นมีจำหน่ายสินค้ากันร้อนเฉพาะฤดู เช่น เสื้อระบายความร้อน, cooling spray และเครื่องดื่มไอโซโทนิก ลองแวะร้านขายยาอย่าง Matsumoto Kiyoshi หรือ Don Quijote
2. วางแผนการเดินทางภายในประเทศ (JR Pass, รถบัส)
ญี่ปุ่นมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกมาก แต่ในหน้าร้อนควรวางแผนให้ดีเพื่อลดเวลารอและหลีกเลี่ยงความร้อน
ตัวเลือกการเดินทางยอดนิยม:
- JR Pass (Japan Rail Pass): คุ้มค่าสำหรับผู้เดินทางข้ามเมืองหลายแห่ง เช่น โตเกียว–เกียวโต–โอซาก้า ควรซื้อจากตัวแทนจำหน่ายล่วงหน้าในไทย
- Regional Pass: เช่น JR East Pass, JR Kyushu Pass เหมาะกับการเที่ยวเฉพาะภูมิภาค
- รถบัสระหว่างเมือง: เช่น Willer Express หรือ JR Bus ซึ่งมีบริการกลางคืน ประหยัดค่าที่พัก 1 คืน
- IC Card (Suica / ICOCA): ใช้ได้กับรถไฟฟ้า รถเมล์ และร้านสะดวกซื้อในเมืองใหญ่
เคล็ดลับ:
วางแผนเส้นทางและเปรียบเทียบราคาผ่านแอปเช่น Navitime Japan หรือ Google Maps + ติดตามสถานะอากาศล่วงหน้าเพื่อตัดสินใจเดินทางกลางวันหรือกลางคืน
3. จองที่พักและจองตั๋วล่วงหน้าอย่างไรให้คุ้มค่า
ช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะสัปดาห์ “Obon” (กลางเดือนสิงหาคม) เป็นช่วงท่องเที่ยวในประเทศยอดนิยมของคนญี่ปุ่นเอง ทำให้ที่พักและตั๋วบางประเภทอาจเต็มเร็วและราคาสูงขึ้น
เคล็ดลับจองที่พัก:
- เลือกที่พักใกล้สถานีรถไฟ หรือมีรถรับ-ส่งจากสถานี
- ใช้แพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคา เช่น Booking.com, Agoda, หรือ Rakuten Travel
- จองล่วงหน้าอย่างน้อย 2–3 เดือน โดยเฉพาะเมืองยอดนิยม เช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ฮอกไกโด
การจองกิจกรรมและตั๋วล่วงหน้า:
- ซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่าน Klook, KKday หรือเว็บไซต์ทางการของสถานที่
- เทศกาลและกิจกรรมบางแห่ง เช่น ดอกไม้ไฟ หรือเทศกาลโอบ้ง อาจต้องจองที่นั่งแบบมีค่าบริการล่วงหน้า
คำถามที่พบบ่อย
ญี่ปุ่นหน้าร้อนควรไปเที่ยวที่ไหน?
สถานที่ยอดนิยมในฤดูร้อนญี่ปุ่น ได้แก่:
- ฮอกไกโด – อากาศเย็นสบาย มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้นานาพันธุ์
- โอกินาว่า – ชายหาดน้ำใส บรรยากาศแบบทรอปิคอล
- ยามานาชิ – เที่ยวไร่ผลไม้ ฟาร์มองุ่น และชมภูเขาไฟฟูจิ
- เกียวโต – ร่วมเทศกาลโอบ้ง สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้
- โตเกียว/โอซาก้า – ช็อปปิ้ง เที่ยวตลาดกลางคืน และดูดอกไม้ไฟ
อุณหภูมิเฉลี่ยและวิธีรับมือกับความร้อน?
- อุณหภูมิเฉลี่ย: 28–35°C โดยเฉพาะช่วงบ่ายจะร้อนจัดและอากาศชื้น
- พื้นที่อย่างโตเกียวและโอซาก้า อาจรู้สึกอบอ้าวเป็นพิเศษ
- ทางเหนืออย่างฮอกไกโด จะเย็นกว่าอยู่ที่ประมาณ 20–25°C
วิธีรับมือ:
- ดื่มน้ำบ่อยๆ (หลีกเลี่ยงชา/กาแฟที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ)
- พักตามร่มไม้ ห้างสรรพสินค้า หรือร้านคาเฟ่ระหว่างวัน
- ใช้ผ้าเย็น พัด หรือสเปรย์ระบายความร้อน (หาได้ง่ายที่ร้านญี่ปุ่น)
ควรจองก่อนช่วงไหนเพื่อได้ราคาดีที่สุด?
- เที่ยวต้นฤดูร้อน (มิถุนายน): ราคาเครื่องบินและที่พักมักจะถูกกว่า เพราะยังไม่ถึงช่วงพีค
- กลาง–ปลายกรกฎาคม: เทศกาลเริ่มเยอะ นักท่องเที่ยวเริ่มมาก ราคาจะเริ่มขยับขึ้น
- ช่วง Obon (กลางสิงหาคม): ราคาสูงสุด ควรจองล่วงหน้า อย่างน้อย 3 เดือน
เคล็ดลับการประหยัด:
- ใช้สายการบินโลว์คอสต์ เช่น Peach, Zipair สำหรับเที่ยวบินภายใน
- พักโรงแรม Business Hotel หรือ Guesthouse ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า
สรุป
แม้หลายคนจะนึกถึงญี่ปุ่นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูหนาวเป็นหลัก แต่ฤดูร้อนก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน เต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้ง อาหารอร่อย วิวธรรมชาติ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หาชมได้เฉพาะฤดูกาลนี้เท่านั้น
หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นในช่วง มิถุนายน–สิงหาคม ลองเปิดใจให้ “ฤดูร้อน” แล้วเลือกปลายทางตามที่คุณชอบจาก 8 สถานที่ที่แนะนำนี้ รับรองว่าทริปญี่ปุ่นหน้าร้อนของคุณจะสดชื่น อิ่มใจ และน่าจดจำไม่แพ้ฤดูไหนเลย!