ชม ป้อมซานเปโดร เดอ ลา โรคา เดล มอร์โร (San Pedro de la Roca del Morro Castle) ป้อมปราการป้องกันข้าศึกจากอ่าวฮาวานา สร้างโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนภายใต้การควบคุมของสเปน ถือเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมทางทหารแบบสเปน-อเมริกัน โดยใช้กระบวนการทางวิศวกรรมสมัยเรเนสซองส์ จึงถูกยูเนสโก้ยกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1977
ชม ป้อม San Carlos de La Cabana ป้อมปราการที่ ใหญ่ที่สุดอันดับสามของทวีปอเมริกา เป็นป้อมที่ตั้งอยู่เคียงข้างกับป้อมเดล มอร์โร มีความสำคัญมากตั้งแต่ในสมัยสเปนยังเรืองอำนาจ และต่อมาในช่วงปฏิวัติคิวบา สถานที่แห่งนี้ยังถูกฟิเดล คาสโตรยึดและใช้เป็นศูนย์บัญชาการและที่คุมขังนักโทษอีกด้วย ยามเมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า
ชม จัตุรัส Francisco de Asis รับลมเย็นจากทะเลที่พัดมาจากท่าเรือของเมือง จัตุรัสแห่งนี้เพิ่งได้รับการบูรณะเมื่อราวทศวรรษที่ 90 แต่เดิมเคยมีตลาดอยู่บริเวณนี้ ต่อมาต้องย้ายออกไปทางด้านใต้เนื่องจากความวุ่นวายของตลาดรบกวนความสงบของบาทหลวงผู้เคร่งครัด
ชม จัตุรัสวิหาร (The Cathedral Square) มีวิหารแห่งฮาวานาตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บริเวณนี้เคยเป็นบึงมาก่อนและถูกใช้เป็นอู่เรือของทหารเรือจนเมื่อมีการสร้างวิหารในปี ค.ศ. 1727 จึงเริ่มมีการมาสร้างอาคารงดงามโดยรอบ ไม่ลืมแวะถ่ายรูปกับประติมากรรม อันโตนิโอ กาเดส (Antonio Gades) นักเต้นฟลาเมงโก้ชื่อดังชาวสเปนที่ยืนพิงเสาอยู่หน้าอาคารPalacio de Lombillo ในจัตุรัสแห่งนี้บริเวณด้านหน้าของโบสถ์มีน้ำพุสิงโตทำจากหินอ่อนที่แกะโดยช่างชาวอิตาเลียนต่อมา
ชม จัตุรัส The Magnificent Arms ที่เก่าแก่ที่สุดของฮาวานา สร้างมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1520 หลังจากก่อร่างสร้างเมืองได้ไม่นาน ชื่อของจัตุรัสได้มาจากการที่บริเวณนี้เคยเป็นจุดรวมพลในสมัยก่อน รอบ ๆ จัตุรัสเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ของยุคคริสต์ศตวรรษที่ 18 ตลอดสองข้างทางเรียงรายด้วยต้นปาล์มขวดและร้านหนังสือมือสอง ใจกลางของจัตุรัสมีอนุสาวรีย์ของ Carlos Manuel de Céspedes ผู้พาคิวบาสู่เส้นทางแห่งอิสรภาพซึ่งถูกเอามาตั้งแทนที่อนุสาวรีย์ของกษัตริย์เฟอร์ดินานที่ 7 แห่งสเปนเมื่อปี ค.ศ. 1955
ชม สุสานเช เกวารา (Mausoleum of Che Guevara) อุทิศความดีงามให้แก่วีรบุรุษแห่งการปฏิวัติผู้นี้ที่ต้องสละชีพในความพยายามในการปฏิวัติโบลิเวียซึ่งเช เกวาร่าโดนสายลับ CIA สังหาร ก่อนที่จะมีการขุดนำร่างกลับมาฝังที่นี่โดยฟิเดล คาสโตรอดีตผู้นำของคิวบา โดยมีอนุสาวรีย์บรอนซ์หล่อเป็นร่างของเช เกวาร่ายืนตระหง่านพร้อมกับหินแกะสลักผู้ก่อการ 38 นายที่ร่วมกับเช เกวาร่าในการปฏิวัติโบลิเวียแต่ล้มเหลวและถูกสังหารโดย CIA ในที่สุด
ชม พิพิธภัณฑ์แห่งการปฏิวัติ (The Museum of the Revolution) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของฮาวาน่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นทำเนียบของประธานาธิบดีคิวบาตั้งแต่สมัยของประธานาธิบดีมาริโอ กาเซีย มิโนคัล จวบจนถึงสมัยของประธานาธิบดีฟุลเคนซิโอ บาติสตา และยังใช้ต่อมาถึงปี 1965 ตัวสถาปัตยกรรมออกแบบในสไตล์นีโอคลาสสิกโดยสถาปนิกชาวคิวบา โรดอลโฟ มารูรี ร่มกับสถาปนิกชาวเบลเยียม ปอล เบลัว ประดับตกแต่งโดยสตูดิโอทิฟฟานีจากนิวยอร์ก ภายในจัดแสดงนิทรรศกาลเกี่ยวกับการปฏิวัติในช่วงยุค 50 และช่วงเวลาหลังจากปี 1959 รวมทั้งมีเรื่องของการปลดแอกจากสเปนด้วย ด้านหลังของพิพิธภัณฑ์มีเรือยอร์ชเก่าที่ฟิเดล เช และราอูล พร้อมพลพรรคขบวนการ 28 กรกฏา ช่วยกันพายเรือข้ามอ่าวแม็กซิโกลักลอบขึ้นเกาะคิวบาและปลุกระดมประชาชนให้เข้าร่วมการปฏิวัติ
ชม บ้านของเช เกวาร่า (La Cabana de Che Guevara) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา บริเวณ ป้อมซานคาลอส เดอ ลา กาบาญา (San Carlos de la Cabana) ป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของทวีปอเมริกา ใกล้ ๆ กับบ้านของเชนั้นมีงานประติมากรรมพระเยซูขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนชื่อว่า The Colossal Cristo de la Habana รูปสลักพระเยซูนี้สร้างขึ้นด้วยคำสั่งของภริยาจอมพลบาติสตา ซึ่งเธอได้ให้คำสัตย์ว่าหากสามีของเธอมีชีวิตรอดจากการถูกโจมตีจากนักศึกษาในปี 1957 เธอจะสร้างรูปสลักพระเยซูขนาดใหญ่ โดยรูปสลักนี้สร้างเสร็จก่อนการปฏิวัติคิวบาเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น ด้วยขนาดที่สูงถึง 18 เมตร ทำให้รูปสลักแห่งนี้โดดเด่นเป็นสง่าและมองเห็นได้จากหลาย ๆ จุดในฮาวาน่า