หากคุณกำลังมองหาที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความลึกลับและความท้าทาย Longyearbyen เมืองที่ตั้งอยู่บน Svalbard คือหนึ่งในจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด ที่นี่มีทั้งธรรมชาติอันงดงามและข้อจำกัดที่ทำให้การใช้ชีวิตในเมืองนี้แตกต่างจากที่ไหนในโลก
Longyearbyen เป็นเมืองที่เรียกได้ว่า “เมืองที่ห้ามตาย” เพราะที่นี่มีข้อห้ามที่ทำให้ชีวิตในเมืองนี้ไม่เหมือนที่ไหน โดยเฉพาะเรื่องของการฝังศพ ที่นี่ไม่มีการฝังศพในเมืองนี้เพราะอุณหภูมิที่ต่ำจัดทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้
ทำไม Longyearbyen ถึงถูกเรียกว่า “เมืองที่ห้ามตาย”
ข้อห้ามที่ไม่มีที่ไหนเหมือน
Longyearbyen ได้รับการขนานนามว่า “เมืองที่ห้ามตาย” เนื่องจากมีข้อบังคับที่ไม่อนุญาตให้ฝังศพในเมืองนี้ เป็นผลมาจากอุณหภูมิที่หนาวจัดในพื้นที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ เมืองนี้จึงกลายเป็นเมืองที่ทุกคนที่มาอาศัยต้องมีชีวิตที่แข็งแกร่งและสามารถรับมือกับอากาศอันโหดร้ายได้
สภาพอากาศสุดขั้วที่ท้าทายทุกคน
Svalbard ตั้งอยู่ในเขตอาร์กติก การใช้ชีวิตที่นี่จึงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่หนาวเย็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิสามารถต่ำลงไปถึง -30 องศาเซลเซียส การเดินทางและการใช้ชีวิตที่นี่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก แต่กลับมีความสวยงามและเสน่ห์เฉพาะตัวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

อ้างอิง It’s illegal to die in this town of Norway
สถานที่ท่องเที่ยวใน Longyearbyen
ฟยอร์ดอาร์กติก (Arctic Fjords)
การล่องเรือชม ฟยอร์ดอาร์กติก คือกิจกรรมที่ต้องทำเมื่อมาถึง Longyearbyen คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติ ทั้งทะเลที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและภูเขาที่สูงตระหง่าน ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดในโลก
พิพิธภัณฑ์ Svalbard
สำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของ Svalbard การเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ Svalbard คือกิจกรรมที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์นี้จะพาคุณย้อนกลับไปในอดีตของเกาะนี้ ตั้งแต่การค้นพบครั้งแรกจนถึงการพัฒนาในอุตสาหกรรมขุดถ่านหินที่สำคัญของเมือง
ชมแสงเหนือ (Northern Lights)
Longyearbyen เป็นหนึ่งในจุดชม แสงเหนือ (Aurora Borealis) ที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากเมืองนี้อยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือในช่วงฤดูหนาว แสงสีเขียวจะกระจายออกไปทั่วท้องฟ้าเป็นภาพที่ยากจะลืมเลือน
กิจกรรมที่น่าสนใจใน Longyearbyen
ขี่สุนัขลากเลื่อน
การขี่สุนัขลากเลื่อน คือกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากใน Svalbard ที่นี่มีสุนัขพันธุ์ Husky ที่แข็งแรงและพร้อมพาคุณเดินทางผ่านภูมิประเทศที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง เป็นกิจกรรมที่ให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติในแบบที่แตกต่าง
เดินป่าหิมะ (Snowshoeing)
สำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินป่าหิมะ การเดินป่าหิมะ คือกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด การเดินผ่านหิมะที่ปกคลุมบนพื้นที่อาร์กติกจะให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก คุณจะได้เห็นธรรมชาติที่แปลกตาและสวยงาม

FAQ — คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ Longyearbyen
1) Longyearbyen เป็นเมืองที่ปลอดภัยหรือไม่?
Longyearbyen เป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูง แต่ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับสภาพอากาศและการเดินทางในพื้นที่หิมะ
2) ช่วงไหนที่ดีที่สุดในการเยือน Longyearbyen?
ฤดูหนาว (ตุลาคมถึงมีนาคม) เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการชมแสงเหนือและกิจกรรมทางน้ำแข็ง ขณะที่ฤดูร้อน (พฤษภาคมถึงกันยายน) จะเหมาะกับการเดินป่าและล่องเรือ
3) มีที่พักแบบไหนใน Longyearbyen?
Longyearbyen มีที่พักหลากหลายตั้งแต่โรงแรมระดับหรูไปจนถึงโฮสเทลที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณต่ำ
4) การเดินทางใน Longyearbyen ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?
การเที่ยว Longyearbyen โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน เพื่อสัมผัสความงามของธรรมชาติและกิจกรรมที่นี่
สรุป
การเยือน Longyearbyen และ Svalbard เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและแตกต่างจากที่ไหนในโลก เมืองที่เต็มไปด้วยความลึกลับและข้อจำกัดทางธรรมชาติที่ทำให้การใช้ชีวิตที่นี่ไม่เหมือนที่ไหน สำหรับคนรักการผจญภัยและธรรมชาติที่แปลกใหม่ Longyearbyen คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด
สนใจทัวร์ต่างประเทศติดต่อ patourlogy


