ทัวร์โอมาน (Oman)

ทัวร์โอมาน (Oman) ท่องทะเลทรายอาหรับแห่งประเทศโอมาน เยือนหมู่บ้านชาวเบดูอิน ที่ราบสูงจีเบลชาม เพรชเม็ดงามของการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกกลาง

โปรแกรมการเดินทาง ทัวร์โอมาน ประจำปี พ.ศ. 2567

9 – 16 ธันวาคม พ.ศ.2567

9 ธันวาคม พ.ศ.2567: วันที่ 1 : กรุงเทพ – มัสกัต (Muscat)

• 09.15 น. เหินฟ้าสู่ กรุงมัสกัต (Muscat) ประเทศโอมาน โดยสายการบิน Oman air เที่ยวบินที่ WY 818 (ระยะเวลาบิน 6 ชั่วโมง)
• 12.35 น. ถึง สนามบินกรุงมัสกัต เมืองหลวงของประเทศโอมาน
• รับประทานอาหารเที่ยง
• ท่องเที่ยวสถานที่น่าสนใจภายในเมืองหลวงแห่งนี้
  • สุเหร่าประจำกรุงมัสกัต (Grand Mosque) นับว่าเป็นสุเหร่าที่มีความสวยงามและสำคัญต่อ ประเทศโอมาน เป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศโอมาน
  • พระราชวัง อัล อาลาม พาเลซ (Al Alam palace) เป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่าน คาบูส ซึ่งด้านข้างจะเป็น ป้อมโบราณของโปรตุเกส มิรานี และ จาลาลี (Mirani & Jalali) สร้างในศตวรรษที่ 16 ตัวป้อมมิรานี เป็นป้อมเดิมที่สร้างก่อนโปรตุเกสจะมาถึง ในปีค.ศ. 1588 โปรตุเกสได้ปรับปรุงป้อมแห่งนี้ใหม่
  • พิพิธภัณฑ์ Bait Al Zubair เดิมเป็นบ้านของครอบครัว Al Zubair และต่อมาได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงอาวุธ เครื่องประดับ และ เครื่องแต่งกาย พร้อมกับสิ่งของเครื่องใช้และภาพถ่ายอันเก่าแก่
  • ย่านการค้าพื้นเมือง มูทเลาะห์ (Muttrah Souq) ซึ่งพลุกพล่านด้วยชีวิตชีวา อบอวล ด้วยกลิ่น กำยานและไม้จันทน์ ขณะเดินดูของไปตามซอกแคบ ๆ ทาให้รู้สึกได้ถึงโอมานสมัยก่อน
• รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก โรงแรม Hotel Ramada Encore หรือเทียบเท่า

กรุงมัสกัต (Oman) เมืองหลวงของโอมาน

สุเหร่าประจำกรุงมัสกัต (Grand Mosque)

10 ธันวาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 2 : ศูนย์อนุรักษ์เต่า (Ras AI Hadd Turtle Reserve)

• รับประทานอาหารเช้า
• 08.00 น. ออกเดินทางสู่เมือง Al Hadd ระยะทาง 247 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง โดยจะแวะเที่ยวสถานที่ระหว่างทาง
• Bimmah sinkhole โอเอซิสที่สวยงามแปลกตา มีลักษณะเหมือนหลุมขนาดมหาศาล ตั้งอยู่ท่ามกลางช่องแคบที่อยู่ระะหว่างภูเขาหินสูงชันแหล่งน้า ธรรมชาติที่สีน้า สีครามสดใส
• หุบเขาตีวี (Tiwi) เป็นเมืองที่มีด้านหนึ่งเป็นภูเขา และ อีกด้านหนึ่งเป็น มหาสมุทร มีทิวทัสน์ที่ สวยงามแปลกตา
• รับประทานอาหารเที่ยง
• เมืองซูร์ (Sur) ตั้งอยู่ระหว่าง มหาสมุทรอินเดีย ทะเลอารเบียน และทะเลโอมาน ท่าเรือเมืองซูร์ถือเป็นหนึ่งในท่าเรือเก่าแก่ที่เป็นจุด ขนถ่ายสินค้าของเรือเดินสมุทรจากหลายชาติกว่า 100 ปีทั้งในคาบสมุทรอารเบียน อินเดีย แอฟริกา
• ที่พัก โรงแรม SAMA Ras Al Jinz Resort หรือเทียบเท่า
• อาหารเย็น รับประทาน ณ ที่พัก (รวมไว้แล้ว)
• 20.30 น. หลังจากอาหารค่ำ เดินทางสู่ เขตอนุรักษ์เต่าทะเล (Ras AI Hadd Turtle Reserve) ระยะทางจากที่พัก 2 กิโลเมตร โดยรถ เพื่อชมเต่าตนุวางไข่บนชายหาด ในเวลากลางคืน เต่าจะขี้นฝั่งขุด หลุมทรายวางไข่แล้วกลบอย่างดีก่อนกลับลงสู่ทะเลเต่าตัวหนี่งอาจวางไข่ถึง 100 ฟอง และ 60 วันไข่จะฟักเป็นลูกเต่าเล็กๆ มุดออกมาแล้งรีบคลานสู่ท้องทะเลอันปลอดภัย หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับที่พัก
• ในเดือนธันวาคมอาจจะมีโอกาสไม่มากนักที่จะเห็นเต่ามาวางไข่ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนเป็นการล่องเรือเที่ยวแทน

Bimmah sinkhole โอเอซิสที่สวยงามแปลกตา

11 ธันวาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 6 : วาดีบานิคาลิด (Wadi Bani Khalid) – ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba)

• รับประทานอาหารเช้า
• วาดีบานิคาลิด (Wadi Bani Khalid) โอเอซิลกลางหุบเขาหินที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปีในแหล่งธรรมชาติอัน สวยงามและเป็นที่นิยมอย่างมากการขบัรถคดเคี้ยวไปตามภูเขาพร้อมชมวิว สองข้างทางของแม่น้ำ สายยาวที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านและพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์น้ำ ที่ไหลจากเขาไหลรวมในในแอ่งหินดูเหมือนเป็นสระน้ำที่ลึกและใส
• รับประทานอาหารเที่ยง
• ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba) สัมผัสกับบรรยากาศของทะเลทรายอาหรับ เนินทรายอันสดชื่นที่สายลมเคยพัดผ่านทราย ระหว่างทางท่านจะเห็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ชนเผ่า เบดูอิน และชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลทราย
• ***เปลี่ยนพาหนะจากรถบัสเป็นออกเดินทางด้วยรถ 4WD*** ผ่านทะเลทรายอันกว้างใหญ่
• เยี่ยมชม Bedouin House ลองลิ้มรส กาแฟต้นตำรับที่มีวิธีการชงผ่านทรายร้อนโดยใช้เมล็ดกาแฟคั่วสดชงพร้อมกากกาแฟ อุ่นร้อนผ่านทรายเพื่อดึงรสชาติและความเข้มข้นของคาแฟอีนออกมาให้คุณได้ลิ้มลองตามแบบฉบับของกาแฟโอมาน
• ขี่อูฐ (Camel riding) เพื่อชมทัศนียภาพรอบตัวอย่างใกล้ชิด (10 นาที)
• นั่ง 4WD ไปยังสันทรายเพื่อ ชมวิวพระอาทิตย์ตก (Sunset) ที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง
• ที่พัก โรงแรม SAMA Al Wasil Camp หรือเทียบเท่า
  
• อาหารเย็น รับประทาน ณ ที่พัก (รวมไว้แล้ว)

ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba)

12 ธันวาคม พ.ศ.2567 : วันที่ 4 : ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba) – นิซวา (Nizwa)

• รับประทานอาหารเช้า
• เดินทางออกจากแคมป์ที่พักกลับมาสู่ที่จอดรถบัส ***เปลี่ยนพาหนะจาก 4WD เป็นออกเดินทางด้วยรถบัส***
• เมือง Al Mudayrib เพื่อชม หอนาฬิกา Ibra เป็นหอนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่รอบล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่
• เมือง Birkat Al Mauz เพื่อรับชมเมืองเก่าแก่ที่ได้สร้างไล่ระดับตามเชิงเขา พร้อมวิวภูเขาด้านหลังที่สวยงามตระกาลตา
• นำทานเดินทางสู่ เมืองนิซวา (Nizwa) เดินชม ย่านการค้าพื้นเมืองนิซวา (Nizwa Souq) ที่ทานสามารถเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก สินคาพื้นเมือง เป็นตลาดที่มีชีวิตชีวาตามแบบชาวโอมาน สินค้าที่มีเสนอทั้งเครื่องประดับทำมือ เครื่องเงิน เครื่องหนัง กาแฟ และของประดับตกแต่งบ้านสไตล์โอมาน
• รับประทานอาหารเที่ยง
• จากนั้นนําท่านสู่ ป้อมโบราณนิซวา (Nizwa Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ อนุสรณ์สถานแห่งชาติของโอมาน หอคอยขนาดใหญ่ ที่มีห้องมากมายสลับซับซอนเหมือนกับเขาวงกต
• รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก โรงแรม Golden Tulip Nizwa หรือเทียบเท่า

ชาวโอมาน หนึ่งในชนชาติที่มีอัธยาศัยกับนักท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลก

13 ธันวาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 5 : นิซวา (Nizwa) – จีเบล แชม (Jebel Shams)

• รับประทานอาหารเช้า
• 08.30 น. เดินทางสู่ เมือง Bahla ที่ถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโอมาน แวะชม ปราสาท Jabreen ปราสาทโบราณที่ตั้งอยู่ในเมือง (ปัจจุบันปราสาท Jabreen กำลังอยู่ในการบูรณะ ท่านจะได้ถ่ายภาพความสวยงามจากทางด้านนอก)
• ผ่าน Wadi Ghul หุบเขาที่ลึกเป็นอันดับสองในโอมาน เพื่อไปยัง หมู่บ้าน Nakhar ที่ซึ่งช่างฝีมือจัดแสดงงานทอผ้าแบบดั้งเดิม
• รับประทานอาหารเที่ยง
• ***เปลี่ยนพาหนะจากรถบัสเป็นออกเดินทางด้วยรถ 4WD***
• เดินทางสู่ จีเบล แชม (Jebel Shams) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโอมาน จนได้ชื่อว่า เป็นแกรนด์แคนยอนของโอมานซี่งเป็นลกัษณะทางธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดในประเทศ นำท่านสู่บนยอดเขาเพื่อชมวิวมุมสูง
• ที่พัก โรงแรม SAMA Height หรือเทียบเท่า
• อาหารเย็น รับประทาน ณ ที่พัก

จีเบล แชม (Jebel Shams)

จีเบล แชม (Jebel Shams)

14 ธันวาคม พ.ศ.2567 วันที่ 6 : จีเบล แชม (Jebel Shams) – มิสฟัต (Misfat)

• รับประทานอาหารเช้า
• เดินทางออกจากเขตภูเขากลับมายังจุดจอดรถบัส ***เปลี่ยนพาหนะจาก 4WD เป็นออกเดินทางด้วยรถบัส***
• เดินทางสู่ Al Hamra หมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดในโอมานที่มีการคาดการณ์ว่าหมู่บ้านนี้ถูกสร้างมาแล้วถึง 400 ปี
• เมือง Misfat Al Abrlyeen จากด้านบนของถูเขาท่านจะได้เห็นเมืองเก่าแก่ที่แทรกอยู่กลางกลุ่มต้นปาล์ม เสมือนว่าเมืองนี้ได้หลบซ้อนจากโลกภายนอกโดยใช้ธรรมชาติกำบังไม่ให้ใครมองเห็น
• รับประทานอาหารเที่ยง
• เดินชมวัฒนธรรมของชาวโอมานภายในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยเฉพาะเรื่องระบบชลประทาน
• ที่พัก โรงแรม Hotel Misfat Old House (BB) ที่นี่เป็น Bed and Breakfast ที่ะจะทำให้ท่านได้เข้าใจถึงวัฒนธรรมของชาวโอมานที่แท้จริง
• อาหารเย็น รับประทานภายในบ้านพัก เป็นอาหารแบบท้องถิ่นที่จัดเตรียมไว้ให้โดยเจ้าของบ้านโดยเฉพาะ
• *** Misfat Old House เป็นที่พักสไตล์ Homestay ที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรม แต่เป็นการพักในบ้านของชาวบ้าน ในหมู่บ้านที่มีชาวโอมานอาศัยอยู่อย่างถาวร ท่านจะได้รับบรรยากาศเสมืองหนึ่งย้อนกลับไปในโลกอดีต พบกับอัธยาศัยของคนโอมาน โดยตัวบ้านแห่งนี้จะอยู่ห่างจากที่จอดรถ โดยการเดินประมาณ 5 – 10 นาที โดยแนะนำให้ท่านแยกสัมภาระที่จะพักในคืนนี้ใส่กระเป๋าใบเล็กเพื่อความคล่องตัว***

Misfah Old House – Misfat al Abriyyin

15 ธันวาคม พ.ศ.2567 วันที่ 7 : มิสฟัต (Misfat) – มัสกัต (Muscat)

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• เดินทางกลับ มัสกัต (Muscat) ระยะทาง 200 กิโลเมตร (ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)
• ระหว่างแวะชม หมู่บ้านฟานจา (Village of Fanja) หนึ่งในหมู่บ้านโบราณของโอมาน
• อาหารเที่ยง ภัตตาคารท้องถิ่น
• ระหว่างทางแวะชม โรงงานน้ำหอมชื่อดังของประเทศโอมาน (Amouage Manufacture and Visitor’s Centre)
• จากนั้นเยี่ยมชม Royal Opera House (ROH) ซึ่งเป็นโรงอุปรากรแห่งแรกในคาบสมุทรอาหรับ ความสำเร็จทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่นี้เป็นสัญลักษณ์ของความสนใจอันยิ่งใหญ่ที่สุลต่าน Qaboos bin กล่าวว่า ผู้หลงใหลในเสียงดนตรี ยอมจ่ายให้กับความร่ำรวยทางวัฒนธรรมของสุลต่านและสถาปัตยกรรมของสุลต่าน
• รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก โรงแรม Hotel Ramada Encore หรือเทียบเท่า

หมู่บ้าน Al Hamra

16 ธันวาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 8 : มัสกัต (Muscat) – กรุงเทพ

• รับประทานอาหารเช้าแบบ early breakfast หรืออาหารเช้าแบบกล่อง
• 06.15 น. เดินทางถึงสนามบิน
• 09.05 น. เดินทางกลับกรุงเทพ โดยสายการบิน Oman air เที่ยวบินที่ WY 815 (ระยะเวลาบิน 5 ชั่วโมง 45 นาที)
• 17.45 น. ถึง สนามบินสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ