บนโลกนี้จะมี “เมืองที่ไม่มีรถยนต์” จริง ๆ อยู่กี่แห่ง?
ในยุคที่รถยนต์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เสียงเครื่องยนต์ ฝุ่นควัน และจราจรแน่นขนัดทำให้หลายคนเริ่มโหยหาการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่ต้องมีเสียงแตรรถ ไม่ต้องหงุดหงิดกับรถติด และได้เดินชมเมืองอย่างสบายใจ
เมืองเหล่านี้ไม่เพียงแต่สงบและสะอาดเท่านั้น แต่ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้แต่ละแห่งน่าเที่ยวแบบสุด ๆ สำหรับคนที่หลงรักการเดินช้า ๆ มองวิวแบบเต็มตา และอยากสัมผัสเมืองในแบบที่เป็นตัวมันเองจริง ๆ
เมืองไร้รถยนต์ทั้ง 8 แห่ง
1) Venice – อิตาลี
เมืองแห่งสายน้ำที่ไม่มีถนนให้รถยนต์วิ่งเลยสักเส้น
ถ้าต้องให้เลือกเมืองไร้รถยนต์อันดับหนึ่งของโลก ชื่อของ เวนิส (Venice) คงโผล่ขึ้นมาในหัวของหลายคนทันที เมืองที่ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่ายคูคลองกว่า 150 สาย อยู่บนทะเลอาเดรียติก ทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นดินแดนแห่งสายน้ำที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก
การเดินทางส่วนใหญ่จะใช้
- เรือกอนโดลา
- เรือวาโปเรตโต (เรือบัสประจำทาง)
- เดินเท้าไปตามตรอกซอกซอย
สิ่งที่ทำให้เวนิสพิเศษมากคือ ทุกซอกทุกมุมคือเรื่องราว ตั้งแต่ตึกเก่าที่มีสีสันละมุน ไปจนถึงสะพานริอัลโตอันโด่งดัง ศิลปะ วัฒนธรรม และเทศกาลเวนิสคาร์นิวัลที่เต็มไปด้วยหน้ากากสวยงามก็ทำให้เมืองนี้มีมนตร์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย

พิกัด: https://goo.gl/maps/59uu1hbmaSUxXjKJ8
2) Hydra – กรีซ
เมืองริมทะเลสุดมินิมอลที่ไม่มีแม้แต่รถดับเพลิง
เกาะไฮดร้า (Hydra) ตั้งอยู่ในทะเลอีเจียน เป็นเมืองที่สวยเรียบง่าย เต็มไปด้วยบ้านสีขาว–ส้มสไตล์กรีกที่เราคุ้นตา แม้จะเป็นเกาะที่เงียบสงบ แต่กลับเป็นจุดพักผ่อนยอดนิยมของชาวเอเธนส์
สิ่งที่พิเศษคือ
- ทั้งเกาะไม่มีรถยนต์เลยสักคัน
- ถนนแคบและลาดชัน ทำให้การใช้ม้า ลา และการเดินเป็นวิธีหลักในการเดินทาง
- ห้ามสร้างอาคารสูงเพื่อรักษาวิวทะเลให้คงความงามแบบดั้งเดิม
ทุกตรอกซอยเต็มไปด้วยร้านอาหารน่ารัก ร้านกาแฟริมท่าเรือ และบรรยากาศสบาย ๆ ที่ทำให้ไฮดร้าเป็นเมืองแบบ Slow Life ที่แท้จริง

พิกัด: https://goo.gl/maps/bby3nu4q2LL33nKo8
3) Giethoorn – เนเธอร์แลนด์
หมู่บ้านในนิทานที่ไม่มีถนนสำหรับรถยนต์
กีธูร์น (Giethoorn) เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเนเธอร์แลนด์ที่โด่งดังทั่วโลกในชื่อ “Venice of the North” แต่บรรยากาศเงียบกว่า ละมุนกว่า และเป็นธรรมชาติกว่า
ด้วยความที่ไม่มีถนนสำหรับรถยนต์ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจะใช้
- เรือไฟฟ้า
- เรือพาย
- หรือเดินผ่านสะพานไม้กว่า 170 แห่ง
บ้านแต่ละหลังมีสวนสวยหลังคามุงจากรายล้อมด้วยลำคลองใสสะอาด ทำให้การล่องเรือชมหมู่บ้านเป็นกิจกรรมที่ทุกคนต้องทำ

พิกัด: https://goo.gl/maps/kBxEuREAEHrr6CWz5
4) Zermatt – สวิตเซอร์แลนด์
เมืองแห่ง Matterhorn ที่สงบแบบปลอดมลพิษ
เซอร์แมท (Zermatt) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตีนเขา Matterhorn หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดในโลก เมืองนี้มีกฎเข้มงวดคือ
- ห้ามใช้รถยนต์เครื่องยนต์น้ำมัน
- ใช้เฉพาะรถไฟฟ้าขนาดเล็ก
- หรือเดินเท้าเป็นหลัก
เสน่ห์ของเซอร์แมทคือวิวภูเขา บ้านไม้สไตล์สวิส ร้านช็อกโกแลต และเส้นทางเดินเขาสุดอลังการ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบความสงบและอยากสัมผัสธรรมชาติแท้จริง

พิกัด: https://goo.gl/maps/aHh9mxh9rd5kiHiE8
5) Fes – โมร็อกโก
เมืองเก่าอายุพันปีที่ไม่มีรถยนต์เพราะถนนแคบกว่ามอเตอร์ไซค์
เฟส (Fes หรือ Fez) เป็นเมืองวัฒนธรรมสำคัญของโมร็อกโก ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน เมืองเก่าที่เรียกว่า “Medina of Fes” มีตรอกซอยกว่า 9,000 เส้น ซับซ้อนเหมือนเขาวงกต
ด้วยความแคบและคดเคี้ยวของเส้นทาง ทำให้รถยนต์ไม่สามารถเข้ามาได้ตามธรรมชาติ จึงกลายเป็น
- เมืองปลอดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- เต็มไปด้วยร้านค้าเครื่องหนัง ตลาดเครื่องเทศ
- มีการฟอกหนังแบบโบราณสีสันสดใสที่โด่งดังไปทั่วโลก
เดินเที่ยวเฟสคือการเดินทะลุประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีชีวิต

พิกัด: https://goo.gl/maps/GyWGGn4k4bmKsKx77
6) Lamu Town – เคนย่า
เมืองริมทะเลที่เดินทางด้วยลาแทนรถยนต์
ลามู (Lamu Town) ตั้งอยู่ในหมู่เกาะลามูของประเทศเคนย่า เป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานกว่า 600 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO
สิ่งที่ทำให้ลามูไม่เหมือนใครคือวิถีชีวิต Super Slow
- ไม่มีรถยนต์ใช้งาน
- ถนนแคบมากจนเดินสวนกันต้องชิดผนัง
- ยานพาหนะหลักคือ “ลา”
บ้านเรือนสไตล์สวาฮีลี ป่ามะพร้าว และทะเลสีครามคือวิวที่คุณจะเห็นได้ตลอดวันที่อยู่ที่นี่

พิกัด: https://goo.gl/maps/6Y2L7EEEbkJxBuJn8
7) Mackinac Island – สหรัฐอเมริกา
เกาะสงบที่ห้ามรถยนต์ตั้งแต่ปี 1889
เกาะแม็กคิแน็ก (Mackinac Island) ในรัฐมิชิแกน เป็นตัวอย่างเมืองปลอดรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมานานกว่า 130 ปี ตั้งแต่ปี 1889 เมืองนี้ออกกฎหมายห้ามรถยนต์ทุกประเภทรวมถึงมอเตอร์ไซค์
ผู้คนเดินทางด้วย
- จักรยาน
- รถม้า
- หรือเดินเท้า
บนเกาะมีเพียงบ้านไม้สไตล์อเมริกันรุ่นเก่า ร้านไอศกรีม และธรรมชาติแบบอบอุ่น เป็นสถานที่ฮันนีมูนที่ชาวอเมริกันนิยมมาก

พิกัด: https://goo.gl/maps/rksDLWaq3ZSEdMsF7
8) La Cumbrecita – อาร์เจนตินา
หมู่บ้านอัลไพน์กลางป่าที่ต้องเดินเท้า 100%
ลา คัมเบรชิต้า (La Cumbrecita) เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ สไตล์อัลไพน์ในจังหวัดคอร์โดบา จุดเด่นคือความเงียบสงบแบบสุด ๆ เพราะทั้งหมู่บ้านประกาศตัวเป็นเขต “เชิงนิเวศ” ทำให้ห้ามรถยนต์เข้าทุกคัน
นักท่องเที่ยวต้องจอดรถไว้หน้าหมู่บ้าน แล้วเดินเท้าเข้าสู่ชุมชน การปราศจากรถยนต์ทำให้ทั้งเมืองมีอากาศสะอาด ป่ารอบ ๆ สดชื่น และได้ยินเสียงลำธารได้ชัดเจน

พิกัด: https://goo.gl/maps/8mhS8iZvF9PwU5Fe7
สรุป
ถ้าคุณอยากพักจากความวุ่นวายของเมืองสักพัก การไปเที่ยว “เมืองปลอดรถยนต์” คือตัวเลือกที่ดีมาก เพราะคุณจะได้เดินแบบไม่ต้องหลบรถ สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสเสน่ห์ของเมืองในจังหวะช้า ๆ แบบที่คนท้องถิ่นใช้ชีวิตกันจริง ๆ
ทุกเมืองที่แนะนำมีความพิเศษต่างกันไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ความสงบ ความปลอดภัย และอากาศดี ที่จะทำให้การเดินทางของคุณมีความหมายมากขึ้นแน่นอน


