ต๋ากู่ปิงชวน หรือ ธารน้ำแข็งต๋ากู่ (Dagu Glacier) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีธารน้ำแข็งพันปีสวยงามตลอดปี แต่ละเดือนมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน ฤดูหนาวชมหิมะขาวโพลน ฤดูใบไม้ผลิชมดอกไม้บาน ฤดูร้อนอากาศเย็นฉ่ำ ฤดูใบไม้ร่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีทอง
เดือนไหนไป “ต๋ากู่ปิงชวน” ดีที่สุด?
การเลือกช่วงเวลาเดินทางไปยังต๋ากู่ปิงชวนขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและสิ่งที่ต้องการสัมผัส เนื่องจากแต่ละฤดูกาลมีเสน่ห์และกิจกรรมที่แตกต่างกัน
ฤดูหนาว (ธันวาคม–กุมภาพันธ์) ชมหิมะขาวโพลน
ฤดูหนาวเป็นช่วงที่ต๋ากู่ปิงชวนแสดงความงดงามในแบบฉบับเต็มที่ หิมะขาวโพลนปกคลุมทุกพื้นที่ สร้างภาพสีขาวบริสุทธิ์ที่ตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินจนตาค้าง อุณหภูมิในช่วงนี้จะลดลงไปถึง -15 องศาเซลเซียส ธารน้ำแข็งจึงแข็งแกร่งและมีความหนาแน่นมากที่สุด
ช่วงเดือนมกราคมถือเป็นจุดสูงสุดของความสวยงามในฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่พิเศษ เช่น ธารน้ำแข็งเรืองแสงใต้แสงแดด การปกคลุมของหิมะที่สมบูรณ์แบบ และอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพธารน้ำแข็ง
ขอบคุณภาพจาก thairath
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม–พฤษภาคม) ชมดอกไม้กับจุดชมวิว
เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ต๋ากู่ปิงชวนจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวสดใส หิมะบางส่วนเริ่มละลาย เผยให้เห็นพรรณไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่เริ่มแตกใบอ่อน ดอกไม้ป่าเฟื่องฟ้า เช่น ดอกไม้ใบไผ่ (Bamboo Flower) ดอกอัลไพน์ (Alpine Flowers) และดอกไม้ประจำถิ่นอื่นๆ
ช่วงเดือนเมษายนเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปีนเขาและเดินป่า เนื่องจากอุณหภูมิเริ่มอบอุ่นขึ้น (5-15 องศาเซลเซียส) แต่ยังคงความเย็นสบาย ทำให้เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังจุดชมวิวต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น
ฤดูร้อน (มิถุนายน–สิงหาคม) ท้าทายธารน้ำแข็ง พักผ่อนในอากาศเย็นฉ่ำ
ฤดูร้อนที่ต๋ากู่ปิงชวนไม่ใช่ฤดูร้อนแบบที่เราคิด แต่เป็นช่วงที่มีอากาศเย็นฉ่ำที่สุด อุณหภูมิกลางวันจะอยู่ที่ 10-20 องศาเซลเซียส ทำให้เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการหลบหนีความร้อนของเมือง
การท้าทายธารน้ำแข็งในฤดูร้อนจะมีความพิเศษเนื่องจากส่วนขอบของธารน้ำแข็งจะเริ่มละลาย สร้างลำธารเล็กๆ และน้ำตกขนาดเล็กที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินใกล้ธารน้ำแข็งมากขึ้นและสัมผัสกับความเย็นของน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิด
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน) ใบไม้เปลี่ยนสีและทะเลสาบสีทอง
ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นช่วงที่สวยงามที่สุดช่วงหนึ่งของปี เมื่อใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง สีแดง และสีน้ำตาล สร้างความตัดกันกับความขาวของธารน้ำแข็งอย่างสวยงาม ทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่รอบธารน้ำแข็งจะมีสีน้ำเป็นสีทองเนื่องจากการสะท้อนของใบไม้
เดือนตุลาคมถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ เนื่องจากสีสันของธรรมชาติมีความสมดุลและหลากหลายมากที่สุด นอกจากนี้ อุณหภูมิยังไม่หนาวเกินไป (0-10 องศาเซลเซียส) ทำให้เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว
ไฮไลต์ต้องห้ามพลาดที่ Dagu Glacier National Park
ธารน้ำแข็งพันปี “ภูเขาหิมะการ์เซีย”
ธารน้ำแข็งหลักของต๋ากู่ปิงชวนตั้งอยู่บนยอดเขาการ์เซีย ซึ่งมีอายุมากกว่า 10,000 ปี ธารน้ำแข็งนี้มีลักษณะเป็นสีน้ำเงินใสผสมสีขาวนวล เนื่องจากการอัดตัวของน้ำแข็งที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานนับพันปี
ความหนาของธารน้ำแข็งในจุดหนาที่สุดมีมากกว่า 200 เมตร และยาวรวมกันประมาณ 3.5 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปถึงฐานของธารน้ำแข็งได้ และในบางช่วงเวลาสามารถสัมผัสกับน้ำแข็งได้โดยตรง
กระเช้าลอยฟ้า Dagu Glacier Skywalk
กระเช้าลอยฟ้าของต๋ากู่ปิงชวนถือเป็นหนึ่งในระบบกระเช้าที่สูงที่สุดในโลก โดยสามารถพานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังความสูง 4,860 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลได้ภายในเวลาเพียง 20 นาที
ระหว่างการเดินทางด้วยกระเช้า นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวพาโนรามาของเทือกเขาหิมะการ์เซีย ธารน้ำแข็งต่างๆ และหุบเขาที่ลึกลับ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนั่งกระเช้าคือช่วงเช้าตรู่ (6.00-8.00 น.) หรือช่วงเย็น (16.00-18.00 น.) เนื่องจากแสงแดดจะส่องผ่านธารน้ำแข็งสร้างสีสันที่สวยงาม
ขอบคุณภาพจาก yaktour
ทะเลสาบสีน้ำเงิน Crystal Lake
Crystal Lake หรือทะเลสาบคริสตัลเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ตั้งอยู่ใกล้กับธารน้ำแข็งหลัก ทะเลสาบนี้มีน้ำใสจนสามารถมองเห็นก้นทะเลสาบได้ และในช่วงฤดูร้อนจะมีสีน้ำเป็นสีเขียวมรกตที่สวยงาม
สิ่งที่น่าสนใจของทะเลสาบแห่งนี้คือการเปลี่ยนสีของน้ำตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิจะเป็นสีเขียวอ่อน ฤดูร้อนเป็นสีเขียวเข้ม ฤดูใบไม้ร่วงเป็นสีทอง และฤดูหนาวจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม
นักท่องเที่ยวสามารถเดินรอบทะเลสาบได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง มีจุดพักผ่อนและจุดถ่ายรูปหลายจุดรอบทะเลสาบ
จุดถ่ายรูปพาโนรามา 360°
จุดชมวิวพาโนรามา 360 องศาตั้งอยู่บนจุดสูงสุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ คือความสูง 4,860 เมตร จากจุดนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวของเทือกเขาหิมะการ์เซียทั้งหมด รวมถึงธารน้ำแข็งขนาดใหญ่เล็กมากกว่า 13 สาย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมวิวและถ่ายรูปคือช่วงพระอาทิตย์ขึ้น (6.00-7.00 น.) และช่วงพระอาทิตย์ตก (17.00-18.00 น.) เนื่องจากแสงแดดจะส่องผ่านธารน้ำแข็งสร้างสีสันที่สวยงาม เรียกว่า “Golden Hour” ของธารน้ำแข็ง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ต๋ากู่ปิงชวนอยู่ที่ไหน?
ต๋ากู่ปิงชวนหรือธารน้ำแข็งต๋ากู่ (Dagu Glacier National Park) ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน (Sichuan Province) ประเทศจีน ห่างจากกรุงเฉิงตูประมาณ 280 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถประมาณ 4-5 ชั่วโมง อุทยานตั้งอยู่ในเขตปกครองของอำเภอเฮยซุยหรือบล็อกคมคาวา์ (Heishui County) บนเทือกเขาหิมะการ์เซีย ที่ระดับความสูงเฉลี่ย 3,800-4,860 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ค่าเข้าชมและค่ากระเช้าลอยฟ้ามีราคาเท่าไร?
ค่าเข้าชมอุทยาน:
- ผู้ใหญ่: 120 หยวน (ประมาณ 500 บาท)
- เด็กต่ำกว่า 1.2 เมตร: ฟรี
- เด็กสูง 1.2-1.5 เมตร: 60 หยวน (ประมาณ 250 บาท)
- ผู้สูงอายุเกิน 65 ปี: 60 หยวน (ประมาณ 250 บาท)
ค่ากระเช้าลอยฟ้า:
- ขึ้น-ลง: 180 หยวน (ประมาณ 750 บาท)
- ขึ้นอย่างเดียว: 120 หยวน (ประมาณ 500 บาท)
- ลงอย่างเดียว: 80 หยวน (ประมาณ 350 บาท)
ค่าบริการเพิ่มเติม:
- รถบัสภายในอุทยาน: 80 หยวน (ประมาณ 350 บาท)
- เช่าออกซิเจนกระป๋อง: 60 หยวน (ประมาณ 250 บาท)
- ค่าไกด์ภาษาอังกฤษ: 200-300 หยวน (ประมาณ 850-1,250 บาท)
จะไปวันเดียวกลับได้ไหม หรือควรค้างคืน?
การไปวันเดียวกลับ: เป็นไปได้แต่ไม่แนะนำ เนื่องจากต้องเดินทางจากเฉิงตูตั้งแต่เช้าตรู่ (5.00 น.) และเดินทางกลับในเวลาเย็น (19.00 น.) ทำให้มีเวลาในอุทยานเพียง 4-5 ชั่วโมง ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการชมธารน้ำแข็งและกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่
การค้างคืน (แนะนำ):
- ค้างคืน 1 คืน: เหมาะสำหรับการชมธารน้ำแข็งและกิจกรรมหลัก
- ค้างคืน 2 คืน: เหมาะสำหรับการเดินป่าและชมจุดต่างๆ อย่างละเอียด
- ค้างคืน 3 คืน: เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและพักผ่อนอย่างเต็มที่
ต๋ากู่ปิงชวนไม่ใช่เพียงแค่จุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นประสบการณ์ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเดินทางไปในเดือนไหน แต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทายและต้องการสัมผัสกับธารน้ำแข็งพันปีที่หาชมได้ยากในเอเชีย
สนใจทัวร์ติดต่อ patourlogy