หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยของเมืองใหญ่และเสน่ห์ของธรรมชาติอันงดงาม เวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางครั้งนี้ ด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ วัฒนธรรมที่เข้มข้น และธรรมชาติที่สวยงาม เวลลิงตันจึงกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างชื่นชอบและกลับมาเยือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มารู้จักกับเวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์
เวลลิงตัน (Wellington) ตั้งอยู่ที่ปลายใต้ของเกาะเหนือ (North Island) ของนิวซีแลนด์ เป็นเมืองหลวงทางการเมืองและศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ แม้จะมีขนาดเล็กกว่าโอ๊คแลนด์ แต่เวลลิงตันกลับมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้ผู้คนหลงรัก ด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร สถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ และทัศนียภาพของภูเขาที่ล้อมรอบอ่าวสีฟ้าใส
เมืองนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ย่านธุรกิจที่คึกคัก และพื้นที่สีเขียวที่กระจายอยู่ทั่วเมือง นอกจากนี้ เวลลิงตันยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะหลังจากที่ภาพยนตร์ชุด “The Lord of the Rings” ได้มาถ่ายทำที่นี่
10 ไฮไลต์ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเวลลิงตัน
1. พิพิธภัณฑ์เทปาปา (Te Papa Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของนิวซีแลนด์ หรือที่รู้จักในชื่อ “Te Papa Tongarewa” เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเป็นอันขาด พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ใช่แค่สถานที่จัดแสดงนิทรรศการธรรมดา แต่เป็นประสบการณ์การเรียนรู้แบบโต้ตอบที่ทำให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติของนิวซีแลนด์อย่างใกล้ชิด
ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงที่หลากหลาย ตั้งแต่โครงกระดูกของไดโนเสาร์ยักษ์ ศิลปกรรมของชาวเมารี นิทรรศการเกี่ยวกับภูมิประเทศและสัตว์ป่าของนิวซีแลนด์ ไปจนถึงการจำลองแผ่นดินไหวที่ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสถึงพลังธรรมชาติของประเทศนี้ สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือการเข้าชมส่วนใหญ่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับทุกครอบครัว
2. กระเช้ากระเช้าไฟฟ้าเวลลิงตัน (Wellington Cable Car)
สัญลักษณ์ที่โด่งดังที่สุดของเวลลิงตัน คือรถกระเช้าสีแดงสดใสที่วิ่งขึ้นเขาตั้งแต่ปี 1902 การนั่งกระเช้ากระเช้าไฟฟ้าจาก Lambton Quay ขึ้นไปยังจุดสูงสุดที่ Kelburn ไม่เพียงแต่เป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย แต่ยังมอบทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจตลอดเส้นทาง
จากจุดบนสุด ผู้โดยสารจะได้ชมวิวพาโนรามาของเมืองเวลลิงตัน อ่าวสีฟ้าใส และเทือกเขาที่ล้อมรอบอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถเดินเล่นในสวนพฤกษศาสตร์ที่อยู่ใกล้เคียง หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กระเช้าลอยฟ้าเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของระบบขนส่งที่มีอายุกว่า 120 ปีแล้ว
3. สวนพฤกษศาสตร์เวลลิงตัน (Botanic Garden)
หลังจากขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแล้ว จุดหมายถัดไปที่ไม่ควรพลาดคือสวนพฤกษศาสตร์เวลลิงตัน ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาด 25 เฮกตาร์ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายจากทั่วโลก สวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1868 และได้รับการดูแลรักษาอย่างดีตลอดมา
ภายในสวนมีเส้นทางเดินเท้าที่เชื่อมต่อกันหลายเส้นทาง ผู้เยี่ยมชมสามารถเลือกเดินตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางผ่านสวนกุหลาบที่มีดอกไม้หลากสีสัน บ่อน้ำที่มีเป็ดและหงส์ว่ายน้ำ หรือป่าธรรมชาติที่มีต้นไผ่ยักษ์และต้นไม้นิวซีแลนด์พื้นเมือง จุดเด่นของสวนคือ Lady Norwood Rose Garden ที่มีดอกกุหลาบมากกว่า 300 พันธุ์ บานสะพรั่งในช่วงฤดูร้อน
4. ถนนคิวบา (Cuba Street)
หัวใจของวัฒนธรรมฮิปสเตอร์และศิลปะของเวลลิงตัน คือถนนคิวบาที่เต็มไปด้วยร้านค้าเก๋ไก๋ คาเฟ่เล็กๆ แกลลอรี่ศิลปะ และร้านอาหารนานาชาติ ถนนสายนี้มีบรรยากาศที่แตกต่างจากย่านธุรกิจหลักของเมือง ด้วยสีสันที่สดใส งานศิลปะบนผนังอาคาร และการแสดงของศิลปินข้างถนน
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของถนนคิวบาคือรูปปั้นทองเหลืองขนาดใหญ่ของมือที่ชื่อว่า “Wellington Hand” ซึ่งเป็นงานศิลปะที่สื่อถึงการต้อนรับของชาวเวลลิงตัน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งหาของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร ลิ้มรสกาแฟสดชั้นเยี่ยม หรือเพียงแค่นั่งสังเกตการณ์วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น
5. Mount Victoria Lookout จุดชมวิวสุดปัง
สำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวของเวลลิงตันแบบ 360 องศา Mount Victoria Lookout คือจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ที่สุด จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา Mount Victoria ซึ่งสูง 196 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นหนึ่งในจุดที่สูงที่สุดในเขตเมืองเวลลิงตัน
การขึ้นไปชมวิวที่ Mount Victoria Lookout สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการขับรถ เดินป่า หรือขี่จักรยาน เส้นทางเดินเท้าจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที และระหว่างทางจะได้เดินผ่านป่าไผ่และพื้นที่สีเขียวที่สวยงาม เมื่อถึงจุดชมวิวแล้ว ผู้เยี่ยมชมจะได้รับประทานอาหารด้วยสายตากับทิวทัศน์อันงดงามของอ่าวเวลลิงตัน เกาะใกล้เคียง และเมืองที่กระจายตัวอยู่ในหุบเขา
6. ริมอ่าวเวลลิงตัน (Wellington Waterfront)
พื้นที่ริมอ่าวของเวลลิงตันเป็นแหล่งรวมกิจกรรมกลางแจ้งและความบันเทิงที่ไม่ควรพลาด ด้วยเส้นทางเดินและขี่จักรยานที่ยาวหลายกิโลเมตรตลอดชายฝั่ง ผู้เยี่ยมชมสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในอากาศบริสุทธิ์ พร้อมชมเรือยอทช์สีขาวที่จอดเรียงรายในท่าเรือ
ตลอดเส้นทางริมอ่าวมีสวนสาธารณะเล็กๆ พื้นที่นั่งพักผ่อน และประติมากรรมศิลปะที่น่าสนใจมากมาย รวมถึง Writer’s Walk ที่มีคำคมและบทกวีของนักเขียนนิวซีแลนด์ฝังอยู่ในทางเดิน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ริมน้ำที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่และกาแฟชั้นเยี่ยม
7. Zealandia Sanctuary
สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและสัตว์ป่า Zealandia Eco-sanctuary คือสถานที่ที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือน แหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งนี้เป็นหนึ่งในโครงการอนุรักษ์สัตว์ป่าที่สำคัญที่สุดของนิวซีแลนด์ โดยมีเป้าหมายในการฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับสู่สภาพเดิมก่อนที่มนุษย์จะเข้ามาอาศัยในเกาะ
ภายใน Zealandia มีพื้นที่ป่าธรรมชาติ 225 เฮกตาร์ ที่ถูกล้อมรอบด้วยรั้วป้องกันสัตว์โดยรอบเพื่อป้องกันสัตว์นำเข้าที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์พื้นเมือง ผู้เยี่ยมชมจะได้พบกับนกพื้นเมืองหายากหลายชนิด เช่น นกเคอา นกวีกา และนกตุย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าที่ผ่านทุ่งหญ้า ป่าไผ่ และทะเลสาบเล็กๆ ที่สวยงาม
8. Oriental Bay ชายหาดกลางเมือง
Oriental Bay เป็นชายหาดเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเวลลิงตัน ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียงไม่กี่นาที ด้วยพื้นที่ชายหาดที่กว้างขวาง ทรายสีทอง และน้ำทะเลใสสีฟ้าอ่อน ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ อาบแดด หรือเล่นกีฬาทางน้ำ
บริเวณชายหาดมีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟอาหารสดใหม่และเครื่องดื่มเย็นๆ ส่วนบริเวณท่าเรือมีการเช่าเรือคายัค Stand Up Paddle Board และอุปกรณ์กีฬาทางน้ำอื่นๆ ในช่วงฤดูร้อน Oriental Bay จะมีชีวิตชีวามาก ด้วยนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่มาใช้เวลาพักผ่อนริมทะเล
9. ตลาดกลางคืน Harbourside
Harbourside Market เป็นตลาดนัดกลางแจ้งที่จัดขึ้นทุกสุดสัปดาห์ใน Waitangi Park บริเวณริมอ่าว เป็นสถานที่ที่รวบรวมร้านค้าขายสินค้าท้องถิ่น อาหารสดใหม่ ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง และงานฝีมือจากทั่วภูมิภาค ตลาดแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ซื้อของเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมของชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่น
นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มรสอาหารหลากหลายชนิดจากร้านค้าเล็กๆ ตั้งแต่อาหารเมารีแบบดั้งเดิม อาหารทะเลสดจากเกาะใต้ ไปจนถึงเบเกอรี่โฮมเมดที่หอมกรุ่น นอกจากนี้ยังมีสินค้าหัตถกรรม เครื่องแต่งกาย และของที่ระลึกที่ผลิตโดยศิลปินท้องถิ่น ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการค้นหาของขวัญที่มีเอกลักษณ์
10. พิพิธภัณฑ์ Cable Car Museum
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกระเช้าลอยฟ้าเวลลิงตัน Cable Car Museum เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์เล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ที่สถานี Kelburn ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเส้นทางกระเช้าลอยฟ้า
ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเกี่ยวกับการพัฒนาของระบบขนส่งนี้ตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงรถกระเช้าคันเก่าที่เคยใช้งาน เครื่องจักรต้นกำลัง และภาพถ่ายประวัติศาสตร์ที่บันทึกการเปลี่ยนแปลงของเมืองเวลลิงตันตลอดศตวรรษที่ผ่านมา การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะทำให้เข้าใจถึงความสำคัญของกระเช้าลอยฟ้าต่อการพัฒนาของเมืองและชีวิตประจำวันของชาวเวลลิงตัน
เวลลิงตันน่าเที่ยวเดือนไหนที่สุด?
การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปเวลลิงตันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกิจกรรมที่ต้องการทำ อย่างไรก็ตาม มี 2 ช่วงเวลาหลักที่ได้รับการแนะนำมากที่สุด
ฤดูร้อน (ธันวาคม–กุมภาพันธ์)
ช่วงฤดูร้อนของเวลลิงตันเป็นช่วงเวลาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีอุณหภูมิที่อบอุ่นประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าใสและมีฝนน้อย ช่วงนี้เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นริมอ่าว การไปชายหาด การเดินป่า หรือการนั่งสวนพฤกษศาสตร์
นอกจากนี้ ช่วงฤดูร้อนยังเป็นเวลาที่มีเทศกาลและงานกิจกรรมมากมาย เช่น Wellington Summer Festival, New Zealand International Arts Festival และการแสดงดนตรีกลางแจ้ง อย่างไรก็ตาม ควรจองที่พักล่วงหน้าเนื่องจากเป็นช่วงท่องเที่ยวหน้าร้อนและราคาค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าปกติ
ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน / มีนาคม–พฤษภาคม)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศที่เงียบสงบและต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม อุณหภูมิในช่วงนี้จะอยู่ที่ 15-20 องศาเซลเซียส อากาศสดชื่นและมีสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (กันยายน–พฤศจิกายน) เป็นเวลาที่ดอกไม้ในสวนพฤกษศาสตร์บานสะพรั่ง โดยเฉพาะดอกกุหลาบที่จะมีสีสันสวยงามที่สุด ส่วนช่วงฤดูใบไม้ร่วง (มีนาคม–พฤษภาคม) จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและแดง สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ
สนใจทัวร์ต่างประเทศติดต่อ patourlogy
สนใจเที่ยวเกาะ surin islands
