ล่าแสงเหนือที่สุดขอบโลก

ทรอมโซ – สวาลบาร์ด

Exclusive Aurora Hunting Excursion (Tromsø – Svalbard)

วันที่ 3 – 13 มีนาคม พ.ศ. 2567

วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 1 : เริ่มต้นทัวร์ สวาลบาร์ด กรุงเทพ – ออสโล (Oslo)

• 22.00 น.  พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 4 แถว D

****ปัจจุบันยังไม่มีเส้นทางบินตรง กรุงเทพ – ออสโล โดยสายการบินไทย แผนการเดินทางนี้จะยึดตามตารางบินของการบินไทยที่ทำการไว้ตามเวลาปกติ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากการบินไทยยังไม่ทำการบิน ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเป็นสายการบินอื่นที่มีความเหมาะสม เช่น Emirates ซึ่งอาจจะทำให้แผนการเดินทางในวันแรกมีการเปลี่ยนแปลงได้

วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 2 : ออสโล (Oslo) 

• 01.35 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ ด้วยสายการบิน Emirates (ระยะเวลาบิน 6 ชั่วโมง 10 นาที)
• 04.45 น. เดินทางถึงดูไบ
• พักเปลี่ยนเครื่อง 2 ชั่วโมง 40 นาที
• 07.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงออสโล โดย สายการบิน Emirates เที่ยวบิน EK385 (รวมระยะเวลาบิน 7 ชั่วโมง 5 นาที)
• 12.30 น. เดินทางถึง กรุงออสโล (Oslo) ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ
• นำท่านเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจภายในเมืองออสโลตลอดระยะเวลาช่วงบ่ายถึงเย็น
  • เข้าชม อุทยานฟร็อกเนอร์ สถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะประติมากรรม ผลงานทั้งหมดเป็นของ “กุสตาฟ วิคเกอร์แลนด์” ปฏิมากรชื่อดัง
  • ชมทำเนียบรัฐบาล พระบรมมหาราชวัง อาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี อาทิ เนชั่นแนลเธียเตอร์, อาคารรัฐสภา และศาลาเทศบาลเมืองเก่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
• 17.30 น. รับประทานอาหารค่ำภายในเมืองออสโล แล้วกลับเข้าสู่เขตใจกลางเมือง
• ที่พัก โรงแรม Radisson Blu Oslo Airport

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 3 : ออสโล (Oslo) – ทรอมโซ (Tromsø)

• 08.00 น. เดินทางสู่สนามบินกรุงออสโล (Oslo Gardermoen Airport) เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่เมืองทรอมโซ
• 11.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองทรอมโซ (Tromsø) โดย สายการบิน Scandinavian Airline เที่ยวบิน SK 4416
• 13.20 น. เดินทางถึงท่าเรือ เมืองทรอมโซ (Tromsø) หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ภัตตาคารอาหารไทย ณ ร้านอาหาร Ban Thai (ร้านอาหารไทย)
• เมืองทรอมโซ (Tromsø) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์อยู่ในตอนเหนือของนอร์เวย์และทางตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวียน อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดใน เขตอาร์คติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) อีกด้วย เมืองทรอมโซได้ชื่อว่าเป็น Gateway to the Arctic
  • นำท่าน ชมย่านใจกลางเมือง ให้ท่านได้ชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะเหล่าอาคารบ้านไม้เก่าแก่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใสฉูดฉาด
  • จากนั้นชม มหาวิหารอาร์คติก (Arctic Cathedral) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 อีกทั้งยังมีโครงสร้างโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการ สร้างมากจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ มหาวิหารอาร์คติกยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง หนึ่งของเมืองทรอมโซ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืน ได้อย่างชัดเจน
  • ชม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตั้งอยู่เหนือสุดของโลกที่ โพลาเลีย (Polaria) พิพิธภัณฑ์รูปร่างแปลกตาเหมือนหนังสือที่วางต่อกันแห่งนี้ได้รวบรวมสัตว์น้ำสายพันธ์ขั้วโลกจำนวนมากเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาสภาพเหนือพื้นมหาสมุทรอาร์คติค รวมทั้งรับชมกิจกรรม การฝึกและให้อาหารแมวน้ำสายพันธุ์ Bearded Seals ซึ่งเป็นสายพันธุ์สฟาร์บาร์อาร์คติคขนานแท้ Seal Feeding
  • 17.00 น. นำท่าน นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) เป็นยอดเขาสูงที่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มี ลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกัน โดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ ชมภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง ณ ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูงจนได้เวลาอันสมควรหลังจากนั้นนำท่านกลับลงมา
• รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร Fish Company
• ที่พัก โรงแรม Radisson Blu Tromso หรือเทียบเท่า

มหาวิหารอาร์คติก (Arctic Cathedral)

นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain)

แสงเหนือยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain)

วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 4 : ทรอมโซ (Tromsø)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ช่วงเช้าให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย วันนี้เราจะออกกันสายๆ
• 10.00 น. ขึ้นรถบัสเดินทางออกนอกเมืองเพื่อไป ชม Fjord ที่มีความสวยงาม ในมุมมองที่แปลกตา (ปกติเราจะนั่งเรือกันเป็นหลัก) ใช้เวลาโดยประมาณ 5 ชั่วโมง ระหว่างทางท่านจะได้ชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวรรค์สรรสร้างมาให้แก่ประเทศนอร์เวย์แห่งนี้ โดยเราจะเดินทางไปยัง เกาะ Kvaløya ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของประเทศนอร์เวย์ โดยจุดหมายคือ แหลม Sommarøy ที่อยู่ปลายสุดของหมู่เกาะจำนวนเล็กน้อยอันสวยงามที่กระจัดกระจายไปทั่วอ่าว พร้อมกับชมภูเขากลางทะเลที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโบถส์ Arctic Cathedral ในเมืองทรอมโซ
• เที่ยง รับประทานอาหารระหว่างทาง ณ ภัตตาคาร Sommarøy Arctic Hotel
• หลังจากนั้นเดินทางกลับมาพักที่ เมืองทรอมโซ (Tromsø) 
• 15.00 น. นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ขั้วโลก (Polar Museum) อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ อยู่ในอาคารไม้สีแดง ตั้งอยู่บนท่าเทียบเรือ เป็นอีกหนึ่งอาคารแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1830 ภายในมีการจัด   แสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาค การสำรวจขั้วโลก รวมไปถึงพื้นที่ในแถบอาร์กติก นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในเขตอาร์กติก ซึ่งได้แก่ ปลาวาฬ หมีขั้วโลก แมวน้ำ และสิงโตทะเล จากนั้นให้ท่านได้พักผ่อนอิริยาบถตามอัธยาศัย
• 17.00 น. ให้ท่านได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ท่านจะต้องประทับใจไม่รู้ลืมด้วยการ นั่งรถลากเลื่อนโดยกวางเรนเดียร์ (Reindeer Sledding) ยานพาหนะของซานตาครอส เพื่อไปยัง หมู่บ้านชาวซามิ (Sami Village) ชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บริเวณเมืองทรอมโซ ระหว่างทางไกด์ท้องถิ่นที่เป็นชาวซามิจะบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติและการตั้งถิ่นฐานของชาวซามิใน เขตแลปแลนด์ (Lapland) เมื่อเดินทางถึง ท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวซามิ โดยต้อนรับท่านอย่างอบอุ่นเข้าสู่ กระโจมของชาวซามิ (Lavvo)
• ***เนื่องจากเป็นการนั่งรถเลื่อนยามค่ำคืน ท่านจึงมีโอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือในระหว่างการเดินทางได้เลย*** อาหารเย็นจะรับประทานก่อนเริ่ม กิจกรรมเรนเดียร์ จัดเตรียมโดยทีมงานเรนเดียร์
• 22.00 น. กิจกรรมเสร็จสิ้น หลังจากนั้นเดินทางกลับมาถึงโรงแรม (ถึงโรงแรมเวลาประมาณ 23.30 น.)
• ที่พัก โรงแรมที่พัก Radisson Blu Tromsø

แหลม Sommarøy

เมืองทรอมโซ (Tromsø)

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 5 : ทรอมโซ (Tromsø) – ลองเยียร์เบียน (Longyearbyen)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ช่วงเช้าให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
•  อาหารเที่ยงจะเป็นชนิด Lunch Box ที่เตรียมไว้ให้ท่าน ณ สนามบิน
• 12.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) หมู่เกาะสวาลบาร์ด (Svalbard) โดย สายการบิน SAS เที่ยวบิน SK 4414 ระยะเวลาบิน 1 ชั่วโมง 45 นาที
• 14.00 น. เดินทางถึง เมืองลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) ศูนย์กลาง หมู่เกาะสวาลบาร์ด (Svalbard) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะสปิตซ์เบอร์เกน (Spitsbergen)  สฟาร์บาร์ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่อยู่ทางเหนือสุดของทวีปยุโรป และนับเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ของนอร์เวย์ ประมาณ 1,000 กิโลเมตร และห่างจากเมืองหลวงกรุงออสโลประมาณ 2,000 กิโลเมตร
• ***บนเกาะสฟาร์บาร์ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2,500 คนเท่านั้น และเป็นที่อยู่อาศัยของหมีขั้วโลก ซึ่งมีจำนวนถึง 3,000ตัวโดยรอบหมู่เกาะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นอย่างอิสระได้เฉพาะในตัวเมืองลองเยียร์เบียนเท่านั้น หากออกไปนอกเขต จะต้องมีตำรวจหรือไกด์ท้องถิ่นนำไปเท่านั้น***
• ชม พิพิธภัณฑ์สวาลบาร์ด (Svalbard Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่เหนือสุดของโลก ภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของหมู่เกาะสวาลบาร์ด วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและสัตว์ต่างๆที่อาศัยอยู่ในเขตขั้วโลกเหนือ พร้อมทั้งแบบจำลองของสัตว์ชนิดต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะสฟารบาร์ และเขตขั้วโลกเหนือ
• ชม โบสถ์สวาลบาร์ด (Svalbard Church) โบสถ์ไม้แห่งเดียวในหมู่เกาะสฟารบาร์ หรือชมบ้านเรือนสีสันสดใสเรียงรายเป็นแถว และเลือกซื้อหาของที่ระลึกได้ในย่านใจกลางเมือง
• รับประทานอาหารเย็น ณ Funktionærmessen Restaurant (เป็นอาหารแบบตะวันตก)
• 21.00 น. – 23.59 น.นำท่านขับขี่รถ Snowmobile สัมผัสกับประสบการณ์ อันน่าประทับใจในการ ล่าแสงเหนือ พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะ หรือ ทุ่งน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนานและปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวแบบ สโนว์โมบิลซาฟารีโดยทางบริษัท ฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วน ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้านำท่านขับขี่สโนว์โมบิล กิจกรรมขี่ snow mobile ระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทาง 40 กิโลเมตร
• *** Snow mobile 1 คัน จะประกอบด้วย คนขับ 1 คน และ คนนั่งซ้อนท้าย 1 คน ***
• ที่พัก โรงแรม Funken Lodge

เมืองลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) หมู่เกาะสวาลบาร์ด (Svalbard)

วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 6 : สวาลบาร์ด (Svalbard) – กิจกรรมขี่ Snow Mobile

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• 10.00 น. นำท่านขับขี่รถ Snowmobile สัมผัสกับประสบการณ์ อันน่าประทับใจในการ ล่าแสงเหนือ พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะ หรือ ทุ่งน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนานและปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวแบบ สโนว์โมบิลซาฟารีโดยทางบริษัท ฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วน ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้านำท่านขับขี่สโนว์โมบิล ผ่านจุดที่เคยเป็นศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ และ สถานที่ทำเหมืองแร่เก่าของรัสเซีย โดยระหว่างทางท่านอาจจะได้เห็นเหล่าบรรดาสัตว์ขั้วโลกเหนือออกมาอวดโฉมให้ท่านได้พบเช่นกวางเรนเดียร์, สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก
• เป้าหมายของเส้นทาง เราจะเดินทางไปที่ ยอดเขาเอลวิเนตส์ (Elvenest) ที่เป็นจุดชมวิวภูเขา Tempelfjellet หรือในอีกชื่อหนึ่งของ Temple Mountain ที่มีความสูง 766 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งชื่อนี้มีที่มาจากรูปร่างของภูเขาที่ดูเหมือนซากวิหารโบราณเมื่อมองจากระยะไกล  กิจกรรมขี่ snow mobile ระยะเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร *** Snow mobile 1 คัน จะประกอบด้วย คนขับ 1 คน และ คนนั่งซ้อนท้าย 1 คน ***
• อาหารเที่ยง จะให้บริการระหว่างการทำกิจกรรมสโนว์โมบิล จะเป็นอาหารว่าง เช่น บิสกิต + เครื่องดื่มร้อน (แนะนำรับประทานอาหารเช้าให้เยอะๆก่อนเดินทาง)
• 17.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัยก่อนรับประทานอาหารเย็น
• รับประทานอาหารเย็น ณ Funktionærmessen Restaurant (เป็นอาหารแบบตะวันตก)
• ที่พัก โรงแรม Funken Lodge

ขี่รถ Snowmobile

ขี่รถ Snowmobile

วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 7 : กิจกรรมสุนัขลากเลื่อน

• เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
• 10.00 น. นำท่านเปิดประสบการณ์ สุนัขลากเลื่อน เจ้าสุนัขนี้ถูกเพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือเป็นพาหนะในพื้นที่ทีปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และหิมะ จึงถือได้ว่าเป็นสุนัขลากเลื่อนพันธุ์แท้ ที่มีประสิทธิภาพในการลากเลื่อนสูงสุดในบรรดาสุนัขลากเลื่อนทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากสุนัขมีน้ำหนักเบา คล่องตัว ว่องไว แข็งแรง อดทนต่อความหนาวเย็น และความอดอยากในฤดูหนาวได้ดี รวมทั้งมีความอดทนต่อความเหนื่อยล้าเป็นที่หนึ่ง จึงทำให้สามารถลากเลื่อนด้วยความเร็วเป็นเวลาติดต่อกันนานๆในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 0 องศา สุนัขลากเลื่อนยังเป็นกีฬายอดนิยมและแพร่หลายไปยังหลายประเทศแถบขั้วโลก ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์สุนัขลากเลื่อน ไปตามชายฝั่งของเกาะสวาลบาร์ด โดยกิจกรรมนี้จะใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง พร้อมกับเข้า ชมถ้ำน้ำแข็งระหว่างทาง (Ice Cave) และผ่าน จุดชมวิวหุบเขา อัตเวนเดาว์ (Adventdalen ที่สามารถเห็นวิวของเมืองลองเยียร์เบียนและเหมืองถ่านหินเก่าได้)
• อาหารเที่ยง จะให้บริการระหว่างการทำกิจกรรมสุนัขลากเลื่อน โดยจะเป็นอาหารง่ายๆเช่น ซุป และ ขนมปัง
• ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Funktionærmessen (อาหารแบบตะวันตก)
• ที่พัก โรงแรม Funken Lodge

นำท่านเปิดประสบการณ์ สุนัขลากเลื่อน

วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 8 : ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งสู่เมืองร้าง Pyramiden

• เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
• 08.30 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อ ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งสู่เมืองร้างพีรามิดเดนท์ (Pyramiden) เมืองร้างทางตอนเหนือของหมู่เกาะสฟารบาร์ ระหว่างทางท่านจะเพลิดเพลินกับการชมวิวชายฝั่งของ เกาะสปิตซ์เบอร์เกน (Spitsbergen) และหมู่เกาะสวาลบาร์ด เรือจะนำท่านผ่านฟยอร์ดต่างๆ อาทิ Isfjord, Sassenfjord, Tempelfjord เป็นต้น จนกระทั่งเดินทางถึงบริเวณ ธารน้ำแข็ง The Nordenskiöld Glacier ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่มีความยาวถึง 25 กิโลเมตรรายล้อมด้วยภูเขาน้ำแข็งขนาดต่างๆ อยู่ริมชายฝั่งฟยอร์ด
• อาหารเที่ยงให้บริการบนเรือระหว่างการทำกิจกรรม (จะเป็นอาหารเช่น ขนมปัง แซนด์วิช หรือ ซุป)
• จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม เมืองร้างพีรามิดเดนท์ (Pyramiden) ในอดีตเป็นเมืองอุตสาหกรรมถ่านหินเก่า ถูกสร้างโดยประเทศสวีเดนในปี 1910 และขายต่อให้แก่รัสเซียในปี 1927 ซึ่งภายหลังในปี 1998 รัสเซียมีการประกาศว่าเมืองนี้ไม่มีความจำเป็น และอุตสาหกรรมถ่านหินก็ไม่มีผลผลิตตามที่รัฐบาลรัสเซียได้ตั้งเป้าหมายไว้ เมือง Pyramiden จึงถูกปิดตัวลงและประชากรทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้จึงต้องถูกอพยพออกไปจากเมืองอย่างฉับพลัน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับอนุญาตให้เข้าชมได้เฉพาะบางอาคารเท่านั้น โดยในเมืองจะยังมีสิ่งก่อสร้าง อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ตั้งอยู่เหมือนในสมัยที่ยังมีชาวเมือง  อาศัยอยู่ อาทิ เหมืองเก่า อาคารบ้านเรือนต่างๆ สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ สนามกีฬาในร่ม หอชมการแสดงต่างๆ เป็นต้น
• หมายเหตุ กิจกรรมการล่องเรือจะขึ้นอยู่กับสภาพของแผ่นน้ำแข็งเป็นสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดว่าเรือสามารถเข้าไปได้ถึงจุดไหน บ้างครั้งเรือจะสามารถเข้าไปถึงท่าเรือของเมือง Pyramiden แต่บางครั้งจะเข้าไปไม่ถึงและต้องมองจากระยะไกล เรือใช้เวลาท่องเที่ยวทั้งทริปประมาณ 8-10 ชั่วโมง
• ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Funktionærmessen Restaurant (เป็นอาหารแบบตะวันตก)
• ที่พัก โรงแรม Funken Lodge

ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งสู่เมืองร้างพีรามิดเดนท์ (Pyramiden)

ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งสู่เมืองร้างพีรามิดเดนท์ (Pyramiden)

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 9 : สวาลบาร์ด (Svalbard) – ออสโล (Oslo)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• นำท่านเข้าสู่ พิพิธภัณฑ์การเดินทางไปขั้วโลกเหนือ (North Pole Expedition Museum) ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติการเป็นมาของการแข่งขันกันพิชิตขั้วโลกเหนือ ตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 19 ที่มวลมนุษยชาติต่างต้องการเป็นคนแรกที่ได้พิชิตแผ่นดินที่ยังไม่มีมนุษย์คนใดได้สัมผัสมาก่อน ซึ่งในขณะนั้นหลายๆประเทศต่างทุ่มเททรัพยากรและทุนทรัพย์มากมายเพื่อการนี้ ซึ่งมีนักสำรวจหลายรายที่กล่าวอ้างว่าตนได้พิชิตขั้วโลกเหนือเป็นคนแรก แต่ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ จึงไม่เป็นที่ยอมรับ และ สำหรับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิชิตขั้วโลกเหนือเป็นคนแรก คือ Roald Amundsen ชาวนอร์เวย์ ได้พิชิตขั้วโลกเหนือในปี 1926 แต่ก่อนหน้านั้น เขาเป็นผู้พิชิตขั้วโลกใต้ด้วยในปี 1911 และยังเป็นผู้ค้นพบ Northwest Passage
• อาหารเที่ยงจะเป็นชนิด Lunch Box ที่เตรียมไว้ให้ท่าน ณ สนามบิน
• 14.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงออสโล (Oslo) โดย สายการบิน SAS เที่ยวบิน SK 4491 ระยะเวลาบิน 3 ชั่วโมง
• 17.45 น. เดินทางถึง กรุงออสโล (Oslo) นครหลวงแห่งนอร์เวย์
• ที่พัก โรงแรม Radisson Blu Airport Hotel
• รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 10 : ออสโล (Oslo) – กรุงเทพ (Bangkok)

• เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมพักผ่อนอิริยาบถตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเมืองออสโล
• อาหารเที่ยง ท่านสามารถรับประทานอาหารได้ตามอัธยาศัยภายในสนามบิน
• 13.30 น.  ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 955

วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 11 : กรุงเทพ

• 06.20 น.  เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ